ผู้บริหาร บล.เมย์แบงก์ฯ มองธุรกิจโบรกเกอร์เริ่มฟื่นตัว คาดมูลค่าการซื้อขายปีนี้เฉลี่ยวันละ 4 หมื่นล้าน ดัชนีสิ้นปีมีลุ้นแตะ 1,600 จุด ส่วนแนวโน้มปี 58 คาดวอลุ่มจะกลับไปที่ระดับ 5 หมื่นล้าน ลั่นไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ในตลาดฯ เพราะค่า พี/อี แค่ 15 เท่า เทียบกับช่วงวิกฤตที่สูงถึง 20 เท่า ขณะที่ประมาณการเติบโตกำไร บจ.ในปีหน้า จะทำให้ค่า พี/อี ลดลงเหลือ 14 เท่า
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเชื่อว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากมูลค่าการซื้อขายต่อวันปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 40,000 ล้านบาท ช่วยให้มูลค่าการซื้อขายทั้งปียืนอยู่ที่ระดับ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ มองว่าบรรยากาศการเมืองนิ่ง ทำให้มูลค่าการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4 หมื่นล้านบาทต่อวันได้ เพิ่มขึ้นจาก 6 เดือนแรกที่ 3 หมื่นล้านบาท นับว่าเป็นตัวช่วยให้อุตสาหกรรมฟื้นตัว จากการประเมินคาดว่าภาพของเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวจะมีส่วนช่วยให้มูลค่าการซื้อขายของปี 2558 จะกลับขึ้นไประดับ 5 หมื่นล้านบาทได้
สำหรับความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในระยะที่ผ่านมา การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยเป็นปัจจัยเฉพาะตัว และเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อหุ้น รวมถึงกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ เนื่องจากภาพของเศรษฐกิจไทยอยู่ในจุดต่ำสุด และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ทั้งในไตรมาสที่ 4 ต่อเนื่องถึงปี 2558 ซึ่งประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,600 จุด ในสิ้นปีนี้ และไปที่ 1,650 จุด ในปีหน้าได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเป็นห่วงในเรื่องฟองสบู่ตลาดหุ้นนั้น โดยส่วนตัวยังไม่เห็นสัญญาณดังกล่าว หากพิจารณา ราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 15 เท่า และจากการประมาณการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปีหน้า ทำให้ระดับ พี/อี ลดลงมาเหลือ 14 เท่า เมื่อเทียบกับในอดีตที่มีวิกฤตเศรษฐกิจ ที่มีระดับ พี/อี 20 เท่า ถือว่ายังห่างไกลฟองสบู่
