เจ้าของรถหรูเลี่ยงภาษีจากคลังสินค้า ติดต่อขอเสียภาษีนับ 100 ราย หลังกรมศุลฯ เอาจริงแจ้งความดำเนินคดียึดรถ พร้อมให้เสียค่าปรับ 4 เท่า ขณะเดียวกัน สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้ายกทีมกว่า 20 ราย
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบรถหรูหายจากคลังทัณฑ์บนกว่า 500 คัน โดยระบุว่า หลังจากมีกระแสข่าวออกไปว่า กรมฯ จะตรวจยึดคืน และแจ้งความเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้นำเข้า เจ้าของคลังสินค้าทัณฑ์บน รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้มีผู้ติดต่อขอเสียภาษีรถยนต์ที่นำออกไปแล้วกว่า 100 คัน โดยกระบวนการหลังจากนี้ขอให้เจ้าของรถยนต์นำรถมาแสดงเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง และจะพิจารณาเป็นรายกรณีไปว่า เจตนาเอารถยนต์ออกเพื่อหลบเลี่ยงภาษี หรือลืม หรือมีเหตุผลความจำเป็น หากมีเหตุผลอันควรก็ต้องเสียค่าปรับ 4 เท่าของราคารถยนต์ เพื่อให้หลาบจำ
“การติดต่อขอเสียภาษีให้ถูกต้องในรายหลังนี้ถือว่าทำผิดกฎหมายตั้งแต่แรกแล้ว ที่เอารถยนต์ออกไปโดยไม่เสียภาษีให้ถูกต้อง แต่อาจจะดูเหตุผลความจำเป็นบางรายอ้างว่าลืม บางรายอ้างเหตุการณ์น้ำท่วมตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งกรมฯ แจ้งว่า ให้นำรถยนต์มาแสดงด้วยก็ต้องรอดูว่าจะมีผู้เข้ามาเสียภาษีจริงมากน้อยแค่ไหน แต่ระหว่างนี้ยังเดินหน้าตรวจสอบ และยึดรถ ซึ่งก็ได้หลายคันแล้ว ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อบีเอ็ม เบนซ์ พอร์ช เป็นต้น” นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ส่วนเจ้าของคลังทัณฑ์บน ทางกรมฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้วเช่นกัน หากเจตนาให้เจ้าของรถนำรถออกไปเพื่อเลี่ยงภาษีก็อาจจะมีมาตรการลงโทษ ทั้งไม่ต่อใบอนุญาตคลังสินค้าทัณฑ์บน และสั่งปิดทันที หากเป็นคลังสินค้ารถยนต์เพียงอย่างเดียว ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่เกี่ยวกับกระบวนการตรวจปล่อยรถจากคลังสินค้าในช่วงที่ผ่านมา ก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และระหว่างนี้ได้สั่งเปลี่ยนทีมตรวจปล่อยสินค้าประมาณ 20-30 คน โดยเอาเจ้าหน้าที่รุ่นใหม่เข้าไปแทนเจ้าหน้าที่ที่ทำมานานจนมีความชำนาญมากเกินไปแล้ว
