BTS เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน “ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์” เพื่อประกอบธุรกิจร้านอาหาร รวมถือหุ้นทั้งสิ้น 75%
นายรังสิน กฤตลักษณ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัท ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์ จำกัด (ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์) บริษัทร่วมที่บริษัท จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจร้านอาหาร โดยการถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยชื่อ บริษัท แมน คิทเช่น จำกัด (แมน คิทเช่น) นั้น ได้มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เพิ่มทุนอีก 50 ล้านบาท จากเดิมทุน 10 ล้านบาท เป็นทุน 60 ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของลิตเติ้ลคอร์นเนอร์ ตามสัดส่วน ทั้งนี้ เพื่อนำเงินจากการเพิ่มทุนนี้ไปใช้ในการขยายขนาดการลงทุนในกิจการ
ทั้งนี้ แมน คิทเช่น ได้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้น 400,000 หุ้น ซึ่งเป็นการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนจำนวน 250,000 หุ้น และอีก 150,000 หุ้น เป็นการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสัดส่วนจากส่วนของนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย ผู้ถือหุ้นที่ไม่ประสงค์จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนเต็มจำนวน
ดังนั้น จึงทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ แมน คิทเช่น ในลิตเติ้ลคอร์นเนอร์ ภายหลังการเพิ่มทุนแล้วเสร็จในวันนี้ (วันที่ 22 กันยายน) เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 75 และสัดส่วนการถือหุ้นของนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย ลดลงจากเดิมร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 25 และมีผลทำให้ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์ เปลี่ยนสภาพจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
นายรังสิน กฤตลักษณ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัท ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์ จำกัด (ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์) บริษัทร่วมที่บริษัท จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจร้านอาหาร โดยการถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยชื่อ บริษัท แมน คิทเช่น จำกัด (แมน คิทเช่น) นั้น ได้มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เพิ่มทุนอีก 50 ล้านบาท จากเดิมทุน 10 ล้านบาท เป็นทุน 60 ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของลิตเติ้ลคอร์นเนอร์ ตามสัดส่วน ทั้งนี้ เพื่อนำเงินจากการเพิ่มทุนนี้ไปใช้ในการขยายขนาดการลงทุนในกิจการ
ทั้งนี้ แมน คิทเช่น ได้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้น 400,000 หุ้น ซึ่งเป็นการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนจำนวน 250,000 หุ้น และอีก 150,000 หุ้น เป็นการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสัดส่วนจากส่วนของนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย ผู้ถือหุ้นที่ไม่ประสงค์จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนเต็มจำนวน
ดังนั้น จึงทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ แมน คิทเช่น ในลิตเติ้ลคอร์นเนอร์ ภายหลังการเพิ่มทุนแล้วเสร็จในวันนี้ (วันที่ 22 กันยายน) เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 75 และสัดส่วนการถือหุ้นของนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย ลดลงจากเดิมร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 25 และมีผลทำให้ลิตเติ้ล คอร์นเนอร์ เปลี่ยนสภาพจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
