“สรรพากร” เตรียมดึงผู้ประกอบการธุรกิจเงินสด 5 ล้านราย เข้าระบบภาษี เผยกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูล พร้อมเรียกผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซหารือ เพื่อดึงให้เสียภาษีอย่างถูกต้อง
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเงินสด โดยเฉพาะการค้าขายตามตลาดซื้อขายขนาดใหญ่ เช่น ตลาดสำเพ็ง ตลาดโบ๊เบ๊ การค้าขายตามชายแดน และเจ้ามือหวยใต้ดิน ว่า มีรายได้เข้าการเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาหรือไม่ โดยจะตรวจสอบอย่างละเอียด หากผู้ประกอบการธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายก็ต้องดึงเข้ามาเสียภาษีให้ถูกต้อง ซึ่งเบื้องต้นพบว่าจะอยู่ประมาณ 5 ล้านราย
“ที่ผ่านมา กรมได้สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบฐานข้อมูลประชากรของประเทศที่มีอยู่ประมาณ 67 ล้านราย พบว่ามีเพียง 5 ล้านรายเท่านั้น ที่เข้าเกณฑ์การเสียภาษีบุคคลธรรมดา และอีก 5 ล้านรายที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเงินสดที่ต้องดึงมาเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยกรมมีข้อมูล และหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสถาบันการเงินของกลุ่มดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่า การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการมีรายได้เท่าไร เมื่อหักจากต้นทุนในการทำธุรกิจ”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ขยายให้เป็น 7 ขั้นบันได ซึ่งจะเสียภาษีระหว่าง 5-35% ของรายได้สุทธิ แต่ผู้มีเงินได้สุทธิไม่เกิน 1.5 แสนบาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งในส่วนนี้ภายหลังจากที่กรมได้ตรวจสอบข้อมูลภาพรวมของประชากรทั้งประเทศ 67 ราย พบว่ามีจำนวนมากที่ยังไม่เข้าเกณฑ์เสียภาษี เพราะมีทั้งการได้รับยกเว้น และมีเงินได้สุทธิถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้
ขณะเดียวกัน ในเดือน ต.ค.2557 กรมสรรพากรได้นัดผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ เข้ามาหารือถึงการเสียภาษีที่ถูกต้อง หากยังไม่เข้าระบบต้องดำเนินการเข้าระบบให้ถูกต้อง เพราะธุรกิจดังกล่าวหากมีการซื้อขาย และมีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเข้ามาจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) และหากเข้าข่ายเสียบุคคลธรรมดาก็ต้องยื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้อง