“ไทยพาณิชย์” อัดแคมเปญบัตรเครดิตกระตุ้นยอดใช้จ่าย จับมือ 33 แบรนด์จัด “SCB ดีเว่อร์ ปิด SHOP ช้อปเว่อร์” 3 วัน ใน 4 ศูนย์การค้าดัง ล่อใจนักชอปฯ ด้วยนำคะแนนสะสม SCB Rewards เท่ายอดซื้อแลกส่วนลดได้สูงสุด 50% คาดกระตุ้นยอดใช้จ่ายได้ 20%
นายธีรวัฒน์ ตรีรัตน์ดิลกกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)เปิดเผยว่า จากเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น มีแนวโน้มฟื้นตัวรวมถึงความเชื่อมั่นในการบริโภคของประชาชนเริ่มกลับมา บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ จึงจับมือ 33 แบรนด์ชั้นนำ ทั้งแนวลักซ์ชัวรีแบรนด์ และแฟชั่นแบรนด์ จัดงาน “SCB ดีเว่อร์ ปิด SHOP ช้อปเว่อร์” ใน 4 ศูนย์การค้าใจกลางกรุง ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
พร้อมสิทธิพิเศษมากมายที่ขาชอปพลาดไม่ได้ เช่น ชอปปิ้งสินค้าใหม่ New Arrival ด้วยส่วนลดพิเศษสูงสุด 15% จากแบรนด์ดังที่ร่วมรายการ นำคะแนนสะสม SCB Rewards เท่ายอดซื้อแลกส่วนลดได้สูงสุด 50% เมื่อชำระสินค้าก่อนเที่ยง และส่วนลดสูงสุด 30% เมื่อชำระสินค้าหลังเที่ยงเป็นต้นไป นอกจากนี้ ทางบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ยังใจดีเตรียมบัตรกำนัล SCB มูลค่า 500 บาท สำหรับแจกลูกค้า 1,000 ท่านแรกของแต่ละศูนย์การค้าให้ใช้ชอปฟรีเพิ่มขึ้นแบบใครมาก่อนมีสิทธิก่อนอีกด้วย และในวันที่จัดกิจกรรมทั้ง 3 วัน ลูกค้ายังสามารถซื้อสินค้าและผ่อนชำระกับ SCB ดีจัง ดอกเบี้ย 0% นาน 4 เดือน
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2557 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2557 ที่สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ และปิดท้ายกันในวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2557 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า การแข่งขันของธุริกจบัตรเครดิตในช่วงที่เหลือของปี ก็คงจะรุนแรงกันพอสมควร เพราะในช่วงครึ่งปีแรกมีปัญหา พอคลี่คลายลงในช่วงครึ่งปีหลังทุกคนก็คงคิดคล้ายๆ กันจะต้องกระตุ้นการใช้จ่าย จึงน่าจะมีแคมเปญต่างๆ ออกมาให้ผู้บริโภคได้เลือกกันพอสมควร ซึ่งในส่วนของไทยพาณิชย์เองก็มีเช่นกัน
สำหรับยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15% โดยครึ่งปีแรกโต 10% และครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโต 20% มีจำนวนบัตร 2 ล้านใบ คาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ 2.15 ล้านใบ โดยจากแคมเปญดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในครึ่งปีหลังได้ถึง 20% ส่วนยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 1.6% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 1% ต้นๆในปลายปีก่อน ขณะที่เอ็นพีแอลของทั้งระบบอยู่ที่ 2.7%