“โอเชี่ยน คอมเมิรซ” มองแนวโน้มธุรกิจไปได้สวย หลังบุกตลาดก๊อกน้ำทุกเซกเมนต์ ทั้งผ่านโมเดิร์นเทรด-ดีลเลอร์ ดันยอดขายในประเทศ-ต่างประเทศพุ่งกระฉูด ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 9.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านผู้บริหาร “อุชัย วิไลเลิศโภคา” มั่นใจรายได้รวมในปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% ก่อนโตอย่างก้าวกระโดดในปี 58 หลังเปิดโชว์รูมก๊อกน้ำ ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างลงตัว ไม่ต้องบินไกลถึงต่างแดน
นายอุชัย วิไลเลิศโภคา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรซ จำกัด (มหาชน) (OCEAN) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในในปีนี้คาดว่ารายได้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2556 ตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน หลังจากที่บริษัทได้ทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านเครือข่ายดีลเลอร์ ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรดต่างๆ ซึ่งทำให้ยอดขายทั้งใน และต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีหลังได้อย่างแน่นอน
“แม้ภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกสถานการณ์การเมืองยังไร้เสถียรภาพ แต่ในแง่ของยอดขาย และกำไรของเรายังโตต่อเนื่อง จากการที่เราทำงานหนัก เร่งขยายฐานการตลาดใหม่ๆ ตามแผนที่เราวางไว้ ทำให้เรามั่นใจว่าภาพรวมทั้งปีรายได้จะขยายตัวตามเป้า” นายอุชัยกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการสร้างศูนย์กระจายสินค้า และขยายอาคารโชว์รูมก๊อกน้ำที่ทันสมัยในพื้นที่ของบริษัทในจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าก๊อกน้ำของประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มทั้งในประเทศ และต่างประเทศ (Niche Market) ให้สามารถเลือกซื้อ และสั่งผลิตก๊อกน้ำที่มีรูปแบบที่ทันสมัยได้ในโชว์รูมของบริษัท โดยใช้งบประมาณจำนวน 70 ล้านบาท จากการเพิ่มทุนในช่วงที่ผ่านมา
“โชว์รูมก๊อกน้ำของเราน่าจะสามารถเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการในปี 2558 โดยภายในโชว์รูมจะมีการแสดงข้อมูล และรูปแบบก๊อกน้ำที่พัฒนาให้ทันสมัยออกมาอย่างสม่ำเสมอ คาดว่าจะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศ เพื่อหาข้อมูล หรือเลือกชมก๊อกน้ำดีไซน์ใหม่ๆ ซึ่งเราพร้อมตอบสนองความต้องการลูกค้า และผลิตรองรับออเดอร์ของลูกค้าได้ทันที” นายอุชัยกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 มีกำไรสุทธิ 9.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 4.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 91.84% เนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 154.56 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 18.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.59% โดยกลุ่มลูกค้าประเภทห้างสรรพสินค้า (Modern Trade) เพิ่มขึ้น 7.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.82% ขณะที่กลุ่มลูกค้าประเภทขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น 16.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 390% ขณะที่ต้นทุนการขายปรับตัวลดลง เนื่องจากมีการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
