โบรกฯ เผยหุ้นไทยแกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ ทั้งการผ่านร่างงบฯ ปี 2558 และโรดแมปกระตุ้นการลงทุนด้านต่างๆ แนะเก็งกำไรกลุ่ม Domestic ที่ได้รับประโยชน์ แนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งขึ้น รับสัญญาณบวกทางการเมือง ส่วนต่างประเทศจับตาสถานการณ์ อิสราเอล-ปาเลสไตน์ และสัญญาณเฟดปรับอัตรา ดอกเบี้ยหรือไม่
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีซีมิโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวแคบระหว่างวันดัชนีทะลุแนวต้าน 1,550 จุด มีแรงขายทำกำไรกดดันออกมา โดยนักลงทุนรอดูปัจจัยใหม่ หลังปัจจัยภายในประเทศเริ่มดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผ่านร่างงบประมาณปี 2558 เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน เพียงแค่รอดูการดำเนินการเท่านั้น ซึ่งต้องติดตามความคืบหน้าแผนโรดแมปและการกระตุ้นการลงทุนต่างๆ
ซึ่งการลงทุนช่วงนี้จะเป็นลักษณะของการลงทุนแบบเลือกเล่นหุ้นรายตัว และรายกลุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีประเด็นข่าวอย่างกลุ่มพลังงานทดแทน
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่า หุ้นไทยจะแกว่งตัวแคบในลักษณะ Sideway to-Sideway up และภาพระยะยาวยังเป็นแนวโน้มของขาขึ้น เพียงแต่รอปัจจัยใหม่เข้ามากระทบเท่านั้น ฉะนั้น จึงเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้างในหุ้นที่มีการเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีความชัดเจนหรือประเด็นใหม่ก็ยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นรอบใหม่ได้
ด้านกลยุทธ์ แนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) โดยประเมินแนวรับ 1,533-1,520 จุด แนวต้าน 1,550 จุด
ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบสลับกัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยมองว่าตลาดก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา นักลงทุนส่วนใหญ่รอรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธที่ 20 ส.ค.นี้ จะเริ่มส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ขณะที่การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 มองว่าน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย หากบังคับใช้ได้ทันกำหนดในวันที่ 1 ต.ค. 2557 เป็นต้นไป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งในกรอบแคบต่อ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือการหารือระหว่างคณะผู้แทนของอิสราเอลและปาเลสไตน์ เพื่อหาข้อสรุปมาตรการหยุดยิงว่าจะเป็นการหยุดยิงถาวรหรือไม่ ขณะที่ข้อตกลงชั่วคราวกำลังจะสิ้นสุดลงเที่ยงคืนของวันอังคารนี้ พร้อมให้แนวรับที่ 1,530 จุด และแนวต้าน 1,550-1,570 จุด