ธปท. คาดสินเชื่อผิดนัดชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือน แม้จะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ไม่สูงมาก เพราะเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัว ระบุ ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ธนาคารพาณิชย์ยังมีกำไรสุทธิ 110,000 ล้านบาท และระบบของธนาคารมีเสถียรภาพดี
นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้สินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ หรือสินเชื่อผิดนัดชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือน มียอดคงค้างเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 298,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9,600 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มของสินเชื่อดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นบ้างในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ไม่มากขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีการดูแลลูกหนี้ จึงคาดว่า คุณภาพของสินเชื่อยังคงทรงตัว โดยสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ร้อยละ 2.3 ซึ่งไม่มีสัญญาณน่ากังวล เพราะธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท สูงถึงร้อยละ 169.2 และยังมีสำรองส่วนเกินอีกถึง 160,000 ล้านบาท สามารถรองรับคุณภาพสินเชื่อได้ ไม่จำเป็นต้องมีการกันสำรองเพิ่ม
ส่วนแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อครึ่งปีหลัง คาดว่า น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารพาณิชย์ตั้งไว้ คือ ขยายตัวร้อยละ 6-8 เพราะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวดีขึ้น สัญญาณการปล่อยสินเชื่อเริ่มกลับมา โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2556 ยอดการปล่อยสินเชื่อ 2 เดือน สูงถึง 100,000 ล้านบาท จากยอดรวมไตรมาส 2 ที่อยู่ที่ 120,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากสินเชื่อโครงการสาธารณูปโภค ขณะที่ไตรมาส 1/2557 มียอดสินเชื่อใหม่เพียงแค่ 86,000 ล้านบาท คาดว่า สินเชื่ออุปโภคบริโภคและเอสเอ็มอี จะขยายตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นายอานุภาพ กล่าวว่า แม้ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ธนาคารพาณิชย์ยังมีกำไรสุทธิ 110,000 ล้านบาท และระบบของธนาคารมีเสถียรภาพดี ขณะที่มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15.9
