ประธานบอร์ด บล.คันทรี่ กรุ๊ป เผยครึ่งปีแรกบริษัททรุดสมองไหล IC หดเหลือเพียง 400 คน ทำมาร์เกตแชร์หดเหลือ 3% เผยเตรียมพัฒนาบุคลากรทั้งคุณภาพ และปริมาณเพิ่มขึ้น ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ถึง 20% ในระยะ 3 ปี พร้อมฟันธงตลาดหุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัวมีแนวโน้มแตะ 1,600 จุด
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS กล่าวว่า จากที่ผ่านในครึ่งปีแรกที่บริษัทมีปัญหาในเรื่องของการขาดแคลนบุคลากรในส่วนของเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน หรือ IC (Investment Consultant) ที่มีการย้ายไปอยู่บริษัทอื่นเป็นจำนวนมาก โดยในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทพยายามที่จะพัฒนาการบริการ และเสริมสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพและปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน อยู่ประมาณ 400 คน เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดเอาไว้ให้ได้จากเดิมที่มีอยู่ 3.8% ขณะที่ในปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ 3% ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าในอนาคตระยะเวลา 3 ปี ที่จะร่วมกับลูกค้าสถาบันในการเพิ่มยอดวอลุ่มมาร์เกตแชร์ไม่ต่ำกว่า 20% ในทุกธุรกิจของบริษัท
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ในช่วงของการพิจารณาในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้บริษัทมีการกระจายรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าที่มีอยู่ โดยเตรียมที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจโบรกฯ เมื่อเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนในปี 2558 รวมไปถึงธุรกิจเวนเจอร์ แคปปิตอล และธุรกิจโฮลดิ้ง คอมพานี ซึ่งมีโอกาสที่จะเติบโตได้ดีเนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุน และบริษัทจดทะเบียนได้แสวงหาตลาดการลงทุนที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดการเงินร่วมกับสถาบันการเงิน และพันธมิตรในกลุ่มที่เป็นสถาบันการเงิน ขณะเดียวกัน บริษัทได้วางแผนที่จะเข้าไปลงทุนในกลุ่มลูกค้ารายบุคคลเพิ่มขึ้น และการเข้าไปทำธุรกิจ SBL ให้เป็นระบบที่มีความรวดเร็ว และทันสมัยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้ร่วมเซ็นสัญญาไว้กับกองทุนบำเหน็ดบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ที่มีเงินทุนสำรองเป็นจำนวนมาก และมีความยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังได้เจรจาร่วมกันกับบริษัทพันธมิตรต่างประเทศเพื่อการเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งค่าคอมมิชชันระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเป้าดัชนี SET INDEX ในปีนี้นั้น บริษัทมองว่าหลังจากการเข้ามาบริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ แต่วอลุ่มเทรดของนักลงทุนต่างประเทศยังคงไม่ใหลกลับเข้ามา เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงไม่มีความมั่นใจในการลงทุน จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ และภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นปีหน้า คาดว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และมีมูลค่าการซื้อขายที่สูงตามแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยเป้าดัชนี SET INDEX ในปีนี้คาดว่า จะปรับตัวขึ้นอยู่ในกรอบ 1,550-1,600 จุด จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ ณ ต้นปีที่ 1,400 จุด โดยหุ้นที่ได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ได้แก่กลุ่มการบริโภคพื้นฐาน หุ้นที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ และหุ้นกลุ่มอาหาร ตลอดจนหุ้นที่มีกำไรสม่ำเสมอ ได้แก่กลุ่มสื่อสาร เช่น ADVANC