xs
xsm
sm
md
lg

“พรอดดิจิ” เทรดวันแรกเหนือจอง 2.60 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พรอดดิจิ” เทรดวันแรกราคาปิด 5.40 บาท เหนือราคาจอง IPO 2.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.60 บาท คิดเป็นเกือบ 93% มูลค่าซื้อขาย 1.13 พันล้านบาท ระดมทุนเพื่อขยายสายการผลิตขวดเพ็ตและเป็นทุนหมุนเวียน

วานนี้ (28 ก.ค.) ราคาหุ้นของ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอม เป็นวันแรก เปิดตลาดที่ราคา 6.90 บาท จากราคา IPO จองซื้อที่ 2.80 บาท ระหว่างวันปรับไปสูงสุดที่ 7 บาท ต่ำสุดที่ 5.10 บาท ก่อนปิดตลาดที่ราคา 5.40 บาท เพิ่มขึ้น 2.60 บาท คิดเป็น 92.86 % มูลค่าซื้อขาย 1,132.25 ล้านบาท

โดย PDG ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ระดมทุนเพื่อนำไปลงทุนในโครงการขยายสายการผลิตขวด PET, โครงการผลิตหลอดพรีฟอร์ม (Preform), โครงการติดตั้งเครื่องปิดฉลากขวด PET, โครงการติดตั้งเครื่องบรรจุขวด PET ใส่หีบห่ออัตโนมัติ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปลงทุนในโครงการขยายสายการผลิตขวด PET, โครงการผลิตหลอดพรีฟอร์ม (Preform), โครงการติดตั้งเครื่องปิดฉลากขวด PET, โครงการติดตั้งเครื่องบรรจุขวด PET ใส่หีบห่ออัตโนมัติ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทขวดพลาสติก Polyethylene Terephthalate (ขวด PET) ปัจจุบันบริษัทมีสายการผลิต 33 สายการผลิต กำลังการผลิตรวมประมาณ 50 ล้านขวดพลาสติกต่อเดือน และมีเครื่องปิดฉลากขวด PET อัตโนมัติ 5 ชุด ซึ่งมีกำลังผลิตประมาณ 6 ล้านขวดพลาสติกต่อเดือน รวมทั้งมีเครื่องบรรจุขวด PET ใส่หีบห่ออัตโนมัติ 2 ชุด กำลังการผลิตประมาณ 3.6 ล้านขวดพลาสติกต่อเดือน

โดย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 29 ส.ค.56 คือ บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO ถือหุ้น 86 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 43% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 31.85% รองลงมาเป็นบริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด ถือหุ้น 30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 15% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 11.11% บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหักสำรองตามกฎหมายแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น