ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดวันศุกร์ส่งท้ายสัปดาห์ปิดที่ 1,495.83 จุด เพิ่มขึ้น +2.62 จุด เปลี่ยนแปลง +0.18 % มูลค่าการซื้อขาย 46,238.41 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,504.91 จุด และต่ำสุดที่ 1,495.65 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจำนวน 403 หลักทรัพย์ ลดลงจำนวน 358 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 209 หลักทรัพย์
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับหลักทรัพย์ คือ
SCB ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น +3.50 บาท หรือ +2.00% มูลค่าการซื้อขาย 3,686,673 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง -0.20 บาท หรือ -2.40% มูลค่าการซื้อขาย 2,924,654 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น +0.05 บาท หรือ +0.51% มูลค่าการซื้อขาย 1,683,434 ล้านบาท
BLAND ปิดที่ 1.93 บาท ลดลง -0.01บาท หรือ -0.52% มูลค่าการซื้อขาย 1,524,996 ล้านบาท
KTB ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น +0.10 บาท หรือ +0.46% มูลค่าการซื้อขาย 1,384,815 ล้านบาท
ฝ่ายวิคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนี ว่าช่วงเช้าตลาดได้รับแรงผลักดันจากหุ้นในกลุ่ม Bank, Energy และ ICT ซึ่งอาจแสดงถึงการซื้อต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ ภาพรวมตลาดโดยรวมค่อนข้างดี เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พร้อมคาดการณ์สัปดาห์หน้าว่า ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ประกอบกับช่วงท้ายสัปดาห์นี้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง 2 วันทำการสุดท้าย และสามารถยืนเหนือ 1,500 จุดขึ้นมาได้ดังนั้น คาดว่าเปิดมาต้นสัปดาห์ดัชนีน่าจะมีการปรับฐานลงมาเล็กน้อย หากระหว่างสัปดาห์มีข่าวกระตุ้นดัชนีจะสามารถปรับขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีน่าจะแกว่งในกรอบ 1,490-1,510 จุด
พร้อมแนะนำ นักลงทุนระยะสั้น “แบ่งขายทำกำไร” ที่แนวต้านจิตวิทยา ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ รอจังหวะถอยทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ได้แก่ SPALI, LPN, AP, SAT, SVI, TUF, CPF, CFRESH, TTA, PTTEP, PTTGC, PRANDA, CENTEL, MINT, AAV, NOK, BCP และ BANPU
