“ไฟย์โตซูติคอลส์” ระบุธุรกิจสุขภาพความงาม โตก้าวกระโดดหลังเปิด AEC เผยกลยุทธ์รองรับการแข่งขัน เดินหน้าพัฒนางานวิจัย สร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ขยายช่องทางจำหน่ายทั้งใน-ต่างประเทศ พร้อมเปิดรับพันธมิตรเสริมศักยภาพธุรกิจ ผุดศูนย์บริการสุขภาพรองรับลูกค้าระดับบน และต่างชาติ ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีแรกแนวโน้มเติบโตดี มั่นใจทั้งปีรายได้โต 50% แตะ 500 ล้านบาท
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ผู้ดำเนินธุรกิจครบวงจรในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ และความงามจากธรรมชาติด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่าย เปิดเผยว่า ธุรกิจสุขภาพและความงามในประเทศไทยมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านบาท และคาดว่าในช่วงต่อจากนี้การเติบโตจะมีเกณฑ์ที่ดีขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ความพร้อมของบุคลากร งานบริการ ความทันสมัยของเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านต่างๆ ที่สามารถพัฒนาให้สอดรับต่อความต้องการดูแลสุขภาพของกลุ่มผู้คนจากทั่วโลกที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ลงทุน และเข้ามาเพื่อใช้บริการด้านสุขภาพความงามโดยเฉพาะ
แนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจสุขภาพ และความงามดังกล่าว APCO ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านงานวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้มีประสิทธิภาพคุณภาพสูงสุด และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งบริษัทตั้งงบประมาณพัฒนางานวิจัยต่อปีไว้ที่ 20 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญต่อการขยายช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย โดยตลาดในประเทศมีการขยายช่องทาง Tele Marketing ในช่องโทรทัศน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ประกอบด้วย Money Channel, TNN2 และจะมีการขยายช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเปิดบริการ Natural Cancer Care Center เพื่อให้บริการแก่ชาวสิงคโปร์ และต่างชาติให้ทำหน้าที่ขยายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BIM สู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อตั้งศูนย์บริการดูแลสุขภาพมาตรฐานสากล เพื่อให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ และการใช้ผลิตภัณฑ์ BIM กับกลุ่มลูกค้าคนไทย และต่างชาติ โดยเบื้องต้นบริษัทจะเริ่มดำเนินการจากการเปิด BIM HEALTHCARE CENTER ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับบน จากนั้นจะมีการขยายโครงการไปสู่การเปิด BIM HEALTHCARE VILLAGE เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการดูแลสุขภาพพักฟื้นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ APCO อยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมทั้งเปิดรับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการของบริษัท เช่น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงพยาบาล ฯลฯ เข้ามาช่วยขยายธุรกิจด้านศูนย์บริการสุขภาพดังกล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของ APCO คาดว่าจะมีการเติบโตในเกณฑ์ดีเป็นอย่างมากตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป็นผลจากการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BIM ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และกลุ่มผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วน “โครงการชมรมคนหุ่นสวย” มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายได้ทั้งปีของ APCO คาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 50% หรือมีรายได้รวม 500 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 80% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 35%
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ผู้ดำเนินธุรกิจครบวงจรในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ และความงามจากธรรมชาติด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่าย เปิดเผยว่า ธุรกิจสุขภาพและความงามในประเทศไทยมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านบาท และคาดว่าในช่วงต่อจากนี้การเติบโตจะมีเกณฑ์ที่ดีขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ความพร้อมของบุคลากร งานบริการ ความทันสมัยของเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านต่างๆ ที่สามารถพัฒนาให้สอดรับต่อความต้องการดูแลสุขภาพของกลุ่มผู้คนจากทั่วโลกที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ลงทุน และเข้ามาเพื่อใช้บริการด้านสุขภาพความงามโดยเฉพาะ
แนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจสุขภาพ และความงามดังกล่าว APCO ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านงานวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้มีประสิทธิภาพคุณภาพสูงสุด และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งบริษัทตั้งงบประมาณพัฒนางานวิจัยต่อปีไว้ที่ 20 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญต่อการขยายช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย โดยตลาดในประเทศมีการขยายช่องทาง Tele Marketing ในช่องโทรทัศน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ประกอบด้วย Money Channel, TNN2 และจะมีการขยายช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเปิดบริการ Natural Cancer Care Center เพื่อให้บริการแก่ชาวสิงคโปร์ และต่างชาติให้ทำหน้าที่ขยายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BIM สู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อตั้งศูนย์บริการดูแลสุขภาพมาตรฐานสากล เพื่อให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ และการใช้ผลิตภัณฑ์ BIM กับกลุ่มลูกค้าคนไทย และต่างชาติ โดยเบื้องต้นบริษัทจะเริ่มดำเนินการจากการเปิด BIM HEALTHCARE CENTER ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับบน จากนั้นจะมีการขยายโครงการไปสู่การเปิด BIM HEALTHCARE VILLAGE เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการดูแลสุขภาพพักฟื้นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ APCO อยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมทั้งเปิดรับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการของบริษัท เช่น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงพยาบาล ฯลฯ เข้ามาช่วยขยายธุรกิจด้านศูนย์บริการสุขภาพดังกล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของ APCO คาดว่าจะมีการเติบโตในเกณฑ์ดีเป็นอย่างมากตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป็นผลจากการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BIM ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และกลุ่มผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วน “โครงการชมรมคนหุ่นสวย” มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายได้ทั้งปีของ APCO คาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 50% หรือมีรายได้รวม 500 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 80% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 35%