น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุระยะสั้นราคาทองคำเคลื่อนไหวตามค่าเงินบาทเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น จะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศจะปรับขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำโลก ขณะเดียวกัน มองแนวโน้มราคาทองคำโลก ระยะสั้นอาจปรับขึ้นไปต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้าน 1,283-1,305 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากทะลุแนวต้าน 1,268 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ที่ให้เป็นจุดสังเกตุไปได้
ส่วนแนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์ คาดว่าอาจปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัด 19,780-19,950 บาทต่อน้ำหนักทองหนึ่งบาท คำนวณโดยใช้ค่าเงินบาทที่ 32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุดมาอยู่ที่ 32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนะนำเปิด Long ที่แนวรับ 19,630/19,500 เพื่อปิดที่แนวรับ 19,780/19,950 โดยให้จุด Stop loss ที่ 19,550 สำหรับคนที่ได้เปิด Short ที่ 19,450 อาจได้ปิดสถานะแล้วที่ 19,630
ภาวะตลาดทองคำโลก : ทองคำโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ชะลอลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ทำให้มีนักลงทุนบางส่วนหันมาลงทุนในทองคำ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ขณะที่สถานการณ์อิรักรุนแรงกว่าคาด กลุ่มหัวรุนแรงได้บุกเข้ายึดครองเมืองเคอร์คุค ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำมันทางตอนเหนือของอิรัก และได้ขัดขวางงานซ่อมท่อส่งน้ำมันหลักจากแหล่งน้ำมันในเมืองเคอร์คุค ไปยังตุรกี ร้ายเข้าไปยึดเมืองในอิรัก
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ชะลอลงมาสู่ระดับ 80.55 ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุด อยู่ที่ 32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ประเมินว่าในระยะสั้นจะแกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำโลก ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตามระยะสั้นคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันนี้มีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน คาดการณ์ที่ 83 จุด และในวันที่ 17-18 มิ.ย.จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ