บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี ได้งานเพิ่มเตรียมปรับประมาณการรายได้กลางปี

“บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี” หวังการเมืองจบเร็ว กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยเฉพาะในเทศกาลบอลโลกที่กำลังจะมาถึง เล็งปรับเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นจาก 1,600 ล้านบาทภายในกลางปีนี้ ขณะเดียวกัน พยายามรักษาระดับกำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 2 หลักต่อไป

น.ส.ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เชื่อว่า สถานการณ์ทางการเมืองน่าจะจบได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ไปด้วย รวมถึงบริษัทได้รับงานเข้ามาเป็นประเภทงานสิ่งพิมพ์ปลอดการทำซ้ำ เกี่ยวกับงานพิมพ์ไปรษณียบัตรในช่วงเทศกาลบอลโลก และบริษัทมีการรับงานประเภทใหม่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การทำบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยได้รับงานจากภาครัฐมาแล้วกว่า 100 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเจรจางานของภาคเอกชน ดังนั้น บริษัทจึงเตรียมปรับเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท ภายในกลางปีนี้

“การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติงบประมาณปี 58 และการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือชาวนาที่เป็นผลจากการรับจำนำข้าว จะส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ไปด้วย รวมถึงบริษัทได้รับงานเข้ามาเป็นประเภทงานสิ่งพิมพ์ปลอดการทำซ้ำ เกี่ยวกับงานพิมพ์ไปรษณียบัตรในช่วงเทศกาลบอลโลก ซึ่งเป็นงานที่มีมาร์จิ้นสูง หรืองานประเภท Advanc&Security เช่น แสตมป์ ไปรษณียบัตร และบริษัทมีการรับงานประเภทใหม่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การทำบรรจุภัณฑ์อาหาร เช็ค กระดาษข้อสอบ โดยได้รับงานจากภาครัฐมาแล้วกว่า 100 ล้านบาท”  น.ส.ศิริวรรณ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี คาดว่า บริษัทจะสามารถทำกำไรสุทธิทั้งปี 2557 ให้เติบโตมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 233.98 ล้านบาท พร้อมรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับตัวเลข 2 หลักต่อไป โดยในปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิที่ 14.78% เพิ่มมาถึง 27% จากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 19% นอกจากนี้ บริษัทมองแนวโน้มรายได้ และกำไรในไตรมาส 2/57 จะต่ำกว่าไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 484.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 110.13 ล้านบาท เนื่องด้วยในช่วงไตรมาส 2/57 จะมีวันหยุดยาวจำนวนมาก ประกอบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ผลประกอบการโดยรวมออกมาดีกว่าคาดการณ์ จากที่มีการทยอยรับรู้รายได้ของออเดอร์ในปลายปี 56 ขณะที่เชื่อมั่นว่าผลประกอบการไตรมาส 2/57 จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างแน่นอน

สำหรับงบลงทุนปีนี้บริษัทฯตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยจะใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรและเพิ่มจำนวนเครื่องจักรใหม่เข้ามา โดยปัจจุบันได้ทยอยลงทุนไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาส 2 นี้ราว 100 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ในครึ่งปีหลัง