ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว หลังจากลุ้นระทึกมา 2 วัน โดยแม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะสิ้นสภาพการป็นนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลรักษาการยังอยู่ ทำให้ตลาดหุ้นที่ทรุดตัวลง เริ่มตั้งหลักขึ้นมาใหม่ ซึ่งตีความได้ว่า นักลงทุนประเมินคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในเชิงบวก ทั้งที่การดำรงอยู่ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ถือเป็นลบในระยะยาว เพราะการเมืองยังไม่จบ และยังไม่ถึงจุดเริ่มต้นในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักลงทุน
ดัชนีวันนี้มีความพลิกผัน โดยช่วงเช้าทรุดตัวลงประมาณ 15 จุด ก่อนจะดีดตัวกลับในช่วงบ่าย และปิดตลาดที่ 1,402.61 จุด ลดลง 1.40 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 32,829 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,018 ล้านบาท
การที่ต่างชาติหันกลับมาขายอาจสะท้อนว่า มองมุมแนวโน้มตลาดปลี่ยนไป ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเสถียรภาพรัฐบาลที่ง่อนแง่นเต็มที หรืออาจเป็นเพราะคาดหวังว่า การเมืองจะจบหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสิน แต่กลับไม่จบ จึงหันมาระบายหุ้นออก และการขายของต่างชาติก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะหุ้นที่แกว่งตัวขึ้นก่อนหน้าเกิดจากแรงซื้อต่างชาติโดยตรง
แนวโน้มตลาดระยะสั้นกลับสู่ความไม่แน่นอนเหมือนเดิม โดยการเมืองยังเป็นปัจจัยชี้นำหลัก และไม่อาจคาดหมายได้ว่าเมื่อไหร่จะจบ ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนชะลอการตัดสินใจต่อไป หุ้นจึงไม่มีความคึกคัก และคงอยู่ในสภาพประคับประคองตัวอีกสักพักใหญ่
ดัชนีวันนี้มีความพลิกผัน โดยช่วงเช้าทรุดตัวลงประมาณ 15 จุด ก่อนจะดีดตัวกลับในช่วงบ่าย และปิดตลาดที่ 1,402.61 จุด ลดลง 1.40 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 32,829 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,018 ล้านบาท
การที่ต่างชาติหันกลับมาขายอาจสะท้อนว่า มองมุมแนวโน้มตลาดปลี่ยนไป ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเสถียรภาพรัฐบาลที่ง่อนแง่นเต็มที หรืออาจเป็นเพราะคาดหวังว่า การเมืองจะจบหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสิน แต่กลับไม่จบ จึงหันมาระบายหุ้นออก และการขายของต่างชาติก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะหุ้นที่แกว่งตัวขึ้นก่อนหน้าเกิดจากแรงซื้อต่างชาติโดยตรง
แนวโน้มตลาดระยะสั้นกลับสู่ความไม่แน่นอนเหมือนเดิม โดยการเมืองยังเป็นปัจจัยชี้นำหลัก และไม่อาจคาดหมายได้ว่าเมื่อไหร่จะจบ ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนชะลอการตัดสินใจต่อไป หุ้นจึงไม่มีความคึกคัก และคงอยู่ในสภาพประคับประคองตัวอีกสักพักใหญ่
