หุ้นปิดครึ่งวันเช้าลดลง 0.41 จุด ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพราะขาดปัจจัยใหม่ชี้นำตลาดฯ แนะจับตาการเมือง และปัญหานยูเครน ลุ้นเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับที่ 1,404-1,415 จุด และแนวต้านที่ 1,423-1,439 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 พ.ค.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,421.07 จุด ลดลง 0.41 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.03 มูลค่าการซื้อขาย 10,959.94 ล้านบาท โดยภาพรวมเช้านี้ดัชนีแกว่งเคลื่อนไหวแคบในแดนบวกก่อนย่อตัวลงในแดนลบ ซึ่งตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ชี้นำ
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนอยู่ระหว่างรอปัจจัยการเมืองที่คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
“เรามองว่านักลงทุนอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของการเมืองที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ส่วนปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดหุ้นไทยยังทรงตัวได้ เราก็มองว่าเป็นผลมาจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามา แต่ก็ไม่ได้เข้ามาแบบมั่นใจมากยังอยู่ในรูปของการซื้อสลับขายอยู่” น.ส.ธีรดา กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ดัชนีฯ คงจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมให้แนวรับ 1,410 จุด และแนวต้าน 1,427 จุด
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ยอมรับว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งนี้ นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยในประเทศ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญนัดสืบพยาน 4 ปาก คดีนายกฯ โยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งคาดว่าศาลฯ จะตัดสินคดีภายใน 15 พ.ค. และการประชุม ครม. เพื่อออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้งวันที่ 20 ก.ค.2557
ส่วนปัจจัยภายนอก โดยต้องจับตาตัวเลขของสหรัฐฯ ความแข็งแกร่งของการจ้างงานเดือน เม.ย. ที่ 2.88 แสนตําแหน่ง มากกว่าที่คาด และดัชนีภาคบริการเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หนุนตลาดหุ้นทั่วโลกมากนัก หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนเมื่อวานอ่อนตัวลง และความรุนแรงที่ชายแดนยูเครนยังเพิ่มขึ้น
โดยในวันนี้คาดว่าทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นผลเชิงบวกต่อตลาดฯ พร้อมให้แนวรับที่ 1,404-1,415 จุด และแนวต้านที่ 1,423-1,439 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 757.79 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.15 บาท
ICHI มูลค่าการซื้อขาย 589.88 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
BGH มูลค่าการซื้อขาย 545.48 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 0.20 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 516.04 ล้านบาท ปิดที่ 6.95 บาท ลดลง 0.05 บาท
LHBANK มูลค่าการซื้อขาย 284.83 ล้านบาท ปิดที่ 1.69 บาท ลดลง 0.13 บาท