น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ มองว่า ราคาทองคำโลกยังอยู่ในขาลง จนกว่าจะทะลุขึ้นยืนได้เหนือ 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ หากไม่ผ่านแนวต้าน 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อาจชะลอลงไปทดสอบแนวรับ 1,290-1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่หากทะลุขึ้นได้เหนือ 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อาจปรับขึ้นได้ต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้าน 1,325-1,334 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ส่วนแนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์ : ประเมินว่าจะดีดฟื้นขึ้นแบบจำกัด (ราคาแปลง GFM14 เช้านี้ คำนวณโดยใช้ราคา Spot Gold ที่ 1305 และค่าเงินบาท/สหรัฐที่ 32.25 จะได้ราคาทองคำที่ 20,004 บาท) แม้ว่าราคาทองคำโลกปรับขึ้น แต่ค่าเงินบาท/สหรัฐแข็งค่า ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นแย่กว่าราคาทองคำโลก
โดยนักลงทุนต้องติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ คือ สถานการณ์ในยูเครนที่เริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ที่อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,310-1,324 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 30 เม.ย. ในประเด็นเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดขนาด QE ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดขนาด QE อีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
พร้อมแนะนำ เปิด Short GFM14 ในช่วงทดสอบแนวต้าน 20,080/20,150 เพื่อปิดในช่วงชะลอลงมาที่แนวรับ 19,920/19,780 แต่หากผิดคาดดีดฟื้นขึ้นเหนือ 20,150 อาจพิจารณาปิดสถานะไปก่อน หรือเปิด Long ตามได้หากทะลุเหนือ 20,150 เพื่อปิดที่แนวต้านถัดไปที่ 20,330 โดยให้จุด Stop loss ที่ 20,050
สำหรับคนถือ Short ไว้ก่อนหน้านี้ แนะนำให้ปิดสถานะในช่วงชะลอลงมาที่แนวรับ โดยให้ Stop loss ที่ 20,150