กลับมาอีกครั้งสำหรับเทศกาลจ่ายเงินปันผลในปี 2557 ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ทยอยประกาศวันปิดทะเบียนเพื่อจ่ายปันผล ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนในการปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อรับปันผลจากผลประกอบการในปี 2556 ของบริษัทจดทะเบียน
• ในปี 2556 บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai เติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมสูงถึง 11.52 ล้านล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 778,507 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย (payout ratio) สูงถึง 52.4% ของกำไรสุทธิรวม ซึ่งคาดการณ์ว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะมีการจ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่ารวมสูงถึงประมาณ 400,000 ล้านบาท ในปี 2557
• จากผลประกอบการในปี 2556 พบว่า 77 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2555 รวมถึงมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก และมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (return on equity: ROE) และมีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (return on asset) สูงกว่าตลาด และอีกทั้งยังมี dividend yield สูงกว่าตลาด โดยในกลุ่มบริษัทเหล่านี้ มี 15 บริษัทที่มี dividend yield สูงกว่า 6%
I. ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในปี 2556 : จากผลประกอบการล่าสุดสำหรับปี 2556 สะท้อนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ยังเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้รวม และกำไรสุทธิรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2556 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีรายได้รวมสูงถึง 11.52 ล้านล้านบาท หรือเติบโตสูงถึง 11.3% ในช่วงปี 2550-2556 และมีกำไรสุทธิรวม 778,507 ล้านบาท หรือเติบโต 12.1%
II. การจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา (ปี 2550-2556) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจ่ายเงินปันผล (cash dividend) อย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูง โดยมีอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย หรือ Payout Ratio สูงถึง 52.4% ของกำไรสุทธิรวม โดยในปี 2556 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย 434 บริษัท จ่ายเงินปันผลรวมกว่า 380,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จึงมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2557 จะมีการจ่ายเงินปันผลรวมสูงกว่า 400,000 ล้านบาท หากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจ่ายเงินปันผลในปี 2557 เท่ากับอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยในช่วง 7 ปี
ดังนั้น นอกจากการปรับพอร์ตรับเงินปันผลแล้ว นักลงทุนยังมีโอกาสได้รับหุ้นสามัญ (stock dividend) ในการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนด้วย เพราะจากข้อมูลการจ่ายเงินปันผลในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีการจ่ายปันผลทั้งในรูปของเงินสด หรือ เงินปันผล และการจ่าย ปันผลเป็นหุ้นสามัญ (stock dividend) ซึ่งพบว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยให้ความสนใจในการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มมากขึ้น โดยมีบริษัทที่จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มขึ้นจาก 9 บริษัทในปี 2550 เป็น 53 บริษัทในปี 2556
III. ความน่าสนใจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในเทศกาลจ่ายเงินปันผลปี 2557 ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีผลประกอบการที่ดี มีอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง เป็นโอกาสอันดีของนักลงทุนในการตรวจสอบ และปรับหุ้นในพอร์ตของตนเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการจ่ายปันผลในปี 2557
ซึ่งในการศึกษานี้ได้คัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่น่าสนใจ โดยมีเงื่อนไขการพิจารณาเช่นเดียวกับการศึกษาของปีที่ผ่านมา ดังนี้
1) มีกำไรสุทธิ (net profit) เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากผลการดำเนินงานในปี 2555 และปี 2556
2) มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (cashflow from operations : CFO) เป็นบวก สำหรับผลประกอบการปี 2556
3) มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (return on equity : ROE) และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (return on assets : ROA) สูงกว่าของตลาด
4) มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (dividend yield : DIY) สูงกว่าอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาด
จากเงื่อนไขดังกล่าว มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยตรงตามเงื่อนไข 77 บริษัท เป็นบริษัทใน SET 59 บริษัท และเป็นบริษัทใน mai 18 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีบริษัทผ่านเกณฑ์ 65 บริษัท (ภาพที่ 5 การคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่น่าสนใจตามเกณฑ์การศึกษา) ซึ่งมี 15 บริษัทที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 6% ขึ้นไป