บรรยากาศการซื้อขายหุ้นช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีลักษณะประคับประคองตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยชี้นำ และนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณืทางการเมืองอยู่จึงไม่ผลีผลามตัดสินใจ โดยเฉพาะรายย่อยซึ่งเทขายหุ้นออกมาตลอด เพราะไม่เชื่อว่าดัชนีจะวิงไปได้ไกล และกังวลในผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองอยู่
ดัชนีวันศุกร์ปิดทื่ 1,409.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.40 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 25,137 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,270 ล้านบาท
การเมืองกำลังใกล้จุดแตกหัก เพราะรัฐบาลแสดงท่าทีไม่ยอมรับกระบวนการตรวจสอบ ไม่ยอมรับคำตัดสินขององค์กรอิสระ และทำท่าจะดื้อแพ่ง สร้างกระบวนการคุกคามข่มขู่ จะปลุกมวลชนขึ้นสู้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นคำขู่ และไม่มีมวลชนสนับสนุนมากพอที่จะก่อการใดๆ แต่นักลงทุนก็หวั่นไหวในความรุนแรง และอยู่ในภาวะรอดูเหตุการณ์
แต่องค์กรอิสระก็ใกล้ตัดสินชะตากรรมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เต็มทีแล้ว โดยภายในเดือนเมษายนนี้ คงจะมบางคดีที่รู้ดำรู้แดง ซึ่งนักลงทุนก็เฝ้ารอสัญญาณทางการเมือง โดยชะลอการลงทุนต่อไป ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์ใหม่คงไม่มีอะไรตื่นเต้น นอกจากซบเซา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป เว้นแต่ต่างชาติจะขนกลับมาลุยซื้อหุ้นเท่านั้น
ดัชนีวันศุกร์ปิดทื่ 1,409.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.40 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 25,137 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,270 ล้านบาท
การเมืองกำลังใกล้จุดแตกหัก เพราะรัฐบาลแสดงท่าทีไม่ยอมรับกระบวนการตรวจสอบ ไม่ยอมรับคำตัดสินขององค์กรอิสระ และทำท่าจะดื้อแพ่ง สร้างกระบวนการคุกคามข่มขู่ จะปลุกมวลชนขึ้นสู้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นคำขู่ และไม่มีมวลชนสนับสนุนมากพอที่จะก่อการใดๆ แต่นักลงทุนก็หวั่นไหวในความรุนแรง และอยู่ในภาวะรอดูเหตุการณ์
แต่องค์กรอิสระก็ใกล้ตัดสินชะตากรรมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เต็มทีแล้ว โดยภายในเดือนเมษายนนี้ คงจะมบางคดีที่รู้ดำรู้แดง ซึ่งนักลงทุนก็เฝ้ารอสัญญาณทางการเมือง โดยชะลอการลงทุนต่อไป ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์ใหม่คงไม่มีอะไรตื่นเต้น นอกจากซบเซา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป เว้นแต่ต่างชาติจะขนกลับมาลุยซื้อหุ้นเท่านั้น