วันที่ 16 เมษายน 2557 เวลา 09.59 น. ดัชนีหุ้นไทยเปิดที่ 1,390.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,656.63 ล้านบาท
นางภรณี ทองเย็น นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุบรรยากาศการลงทุนในวันนี้น่าจะยังเงียบเหงา เพราะนักลงทุนบางส่วนยังหยุดยาว คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,400-1,385 จุด อีกทั้งเหตุการณ์ทางการเมืองนับจากนี้ คาดว่าจะมีหลายเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และบางแนวทางอาจสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้การเมืองไทย เข้าสู่ภาวะที่ถือว่าเป็นสุญญากาศ ทำให้มีหลายฝ่ายเสนอทางออกของปัญหา ผ่านการใช้มาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2550 ซึ่งถือเป็นบททั่วไปของรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า “มาตรา 7 ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” จะเห็นได้ว่า บทบัญญัติในมาตราดังกล่าวเป็นกฎหมายที่เขียนเปิดไว้ให้สามารถตีความได้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมาของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ประเทศไทยยังไม่เคยต้องเข้าสู่ภาวะที่ต้องมีการตีความ มาตราดังกล่าว ผลดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมีการตีความเรื่องการบังคับใช้ และกระบวนการในการดำเนินการกันอย่างกว้างขวาง เท่าที่พอสรุปได้ มี 3 แนวทาง ดังต่อไปนี้
แนวทางของ กปปส. : จะดำเนินการให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลาง และตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ
แนวทางของ รมว.ยุติธรรม : จะทูลเกล้าถวายฎีกา เพื่อให้ทรงวินิจฉัยหาทางออกของปัญหา
แนวทางของคณะรัฐบุคคล : เสนอให้รัฐบุรุษ พูดคุยกับองค์กรหลักต่างๆ ของบ้านเมือง เพื่อร่างพระบรมราชโองการ เสนอเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
กลยุทธ์ยังแนะนำขายหุ้นที่ outperform ตลาด เพราะการเมืองยังเสี่ยงแล้ว ค่า current P/E สูงเกือบ 15 เท่า หากต้องการเข้าซื้อเลือกหุ้นที่เป็น Top pick คือ กลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรเคมี หุ้นเด่น คือ IVL, IRPC และกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเลียม หุ้นเด่น คือ PTT และ PTTEP เพราะราคาหุ้นยังขึ้นน้อยกว่าดัชนีตลาด ขณะที่มี Ex.P/E ต่ำเพียง 9.2 เท่า และที่สำคัญคาดว่าผลกำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวนับจาก 1Q57 และตลอดปีนี้จะพลิกฟื้นจากปี 2556 อย่างมาก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ จากสถิติ 10 ปีหลังสุด พบว่า หากถือหุ้นทั้ง 2 ตัว ข้ามช่วงสงกรานต์ และไปขายหลังผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ไป 3 สัปดาห์ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงกว่า 4%