บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปทดสอบที่ 32.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ในวันศุกร์ (4 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.54 เทียบกับระดับ 32.49 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 มี.ค.)
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ความเคลื่อไหวค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (7-11 เม.ย.57) ว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ และการปรับตัวของตลาดการเงินโลก หลังรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน เม.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้าและส่งออก ฐานะการคลังของรัฐบาลกลางเดือน มี.ค. สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน ก.พ. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาข้อมูลเศรษฐกิจเดือน มี.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ตลาดการเงินไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 7 เม.ย.2557 เนื่องในวันชดเชยวันจักรี
โดยมีปัจจัยประกอบการพิจารณา ดังนี้ เงินยูโรอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ทั้งนี้ เงินยูโรขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย หลังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดสะท้อนว่า นโยบายการเงินจะยังผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินยูโรทยอยลดช่วงบวกในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ท่ามกลางปัจจัยหนุนของเงินดอลลาร์ฯ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือน ก.พ.ที่เพิ่มขึ้นกว่าที่คาด และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน มี.ค.ที่ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด นอกจากนี้ เงินยูโรยังอ่อนค่าลงหลัง ECB ส่งสัญญาณพร้อมใช้มาตรการทางการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อจัดการกับภาวะเงินเฟ้อต่ำของยูโรโซนหากจำเป็น แม้ว่าผลการประชุมในรอบนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ตามเดิมก็ตาม
เงินเยนอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก หากการขึ้นภาษีการบริโภคมีผลกระทบต่อโมเมนตัมเศรษฐกิจญี่ปุ่น ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น
