แนวโน้มราคา SET50 ฟิวเจอร์ นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงที่ 930 จุด ทิศทางระยะสั้นยังคงมีแนวต้านหลักที่ 935 และ 942 จุด โดยหากสามารถยืนเหนือระดับที่มีนัยสำคัญที่บริเวณ 930 จุดได้จะเป็นการแกว่งตัวขึ้นทดสอบบริเวณดังกล่าว ในขณะที่แนวรับวันนี้ประเมินไว้ที่ 923 และ 915 จุด โดย M14 จะยังคงได้รับผลกระทบจากเงินปันผลส่งผลให้ซื้อขายต่ำกว่า SET50 ประมาณ 8 จุด
กลยุทธ์ระบบเทรด ระบบ TTS คงฐานะ Long M14 ที่ 922.30 จุด, TTS—M คง Long M14 ที่ 913.50 จุด และ TTS---L คง Long M14 ที่ 927.50 จุด กลยุทธ์ปกติ : แนะนำให้เทรดดิ้งในกรอบแนวรับ-แนวต้านสั้นในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขาย
ตัดขาดทุน : ให้ ปิด Short หาก S50M14 สูงกว่า 942 จุด
โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50 ประกอบด้วย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้นแรงเกือบ 1% การแถลงของประธานเฟดที่ประเมินว่า ตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัว และเฟดยังต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเป็นปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย โดยการประเมินของประธานเฟดนี้ จะส่งผลให้ตลาดหันไปจับตาตัวเลขภาคแรงงานที่สำคัญในคืนวันศุกร์นี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ตลาดยังไม่ได้มีการเปลี่ยนความคาดหวังเรื่องการลด QE มากนัก ตลาดยังคงประเมินว่า เฟดจะสิ้นสุดการทำ QE ในปลายปีนี้ และขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีหน้า หากตัวเลขภาคแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจึงจะเปลี่ยนความคาดหวังของตลาด
นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีนี้ตลาดจะจับตาการประชุม ECB มากขึ้นหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อยุโรปเมื่อวานนี้ออกมาต่ำกว่าคาด และความคาดหวังในการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของ ECB มีเพิ่มมากขึ้น ในประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดทุนทางอ้อมผ่านทางค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งหากเฟดใช้นโยบายเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลาง ECB ที่ใช้นโยบายผ่อนคลายเพื่อหลีกเลี่ยงเงินฝืด จะส่งผลให้ดอลลาร์ที่เป็นต้นทุนทางการเงินของเฮดจ์ฟันต์เพิ่มขึ้น และกดดันตลาดหุ้นโดยรวม
วิเคราะห์ภาพรวมสัปดาห์นี้จะมีข้อมูลสำคัญที่จะแถลงช่วงปลายสัปดาห์ นักวิเคราห์ถึงจะสามารถอ่านทิศทางตลาดในอนาคตได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังคงมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ในขณะที่นักลงทุนสถาบันเริ่มกลับมาขายสุทธิ จะเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา เนื่องจากในช่วงหลังแรงซื้อ-ขายของนักลงทุนสถาบันมีผลต่อการขึ้น-ลงของตลาด
ปัจจัยเงินทุนไหลเข้า-ออก : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิใน SET +3,814 ล้านบาท ส่วนในตลาด TFEX ต่างชาติซื้อสุทธิ +10 สัญญา