ฝรั่งไล่ช้อน
ตลาดหุ้นปิดฉากไตรมาสแรกด้วยความคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติแห่กลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้น พุ่งเป้าหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ผลักดันให้ดัชนีขยับต่อ ทั้งที่ไม่มีข่าวดีสนับสนุน จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าต่างชาติกลับมาเพราะเหตุใด และจะซื้อต่อเนื่องยาวนานหรือไม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,376.26 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด มูลค่าซื้อขาย 22,540 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,813 ล้านบาท
การดีดตัวขึ้นของดัชนีถือเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะสถานการณ์การเมืองทวีความร้อนแรง และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังจับตาด้วยความหวั่นไหว พากันชะลอการซื้อขาย ทำให้มูลค่าซื้อขายลดลง แต่เพราะต่างชาติกลับมาลุยทำให้หุ้นคึกคักตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
แนวโน้มหุ้นระยะสั้นขึ้นอยู่กับการชี้นำของต่างชาติโดยตรง เพราะถ้ายังโหมซื้อต่อเนื่อง ดัชนีก็สามารถไต่ระดับได้อีก แม้จะสวนทางสถานการณ์การเมือง และไม่มีข่าวดีกระตุ้นก็ตาม ส่วนนักลงทุนรายย่อยก็คงจะขายต่อไป เพราะไม่เชื่อว่าดัชนีจะไปได้ไกล หรือสามารถขึ้นแตะที่ระดับ 1,400 จุดได้
ช่วงนี้จึงวัดกันด้วยแรงซื้อของต่างชาติ และแรงขายทำกำไรของรายย่อย ฝ่ายไหนมีพลังมากกว่าจะเป็นผู้กำหนดทิศทางตลาด
ตลาดหุ้นปิดฉากไตรมาสแรกด้วยความคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติแห่กลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้น พุ่งเป้าหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ผลักดันให้ดัชนีขยับต่อ ทั้งที่ไม่มีข่าวดีสนับสนุน จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าต่างชาติกลับมาเพราะเหตุใด และจะซื้อต่อเนื่องยาวนานหรือไม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,376.26 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด มูลค่าซื้อขาย 22,540 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,813 ล้านบาท
การดีดตัวขึ้นของดัชนีถือเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะสถานการณ์การเมืองทวีความร้อนแรง และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังจับตาด้วยความหวั่นไหว พากันชะลอการซื้อขาย ทำให้มูลค่าซื้อขายลดลง แต่เพราะต่างชาติกลับมาลุยทำให้หุ้นคึกคักตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
แนวโน้มหุ้นระยะสั้นขึ้นอยู่กับการชี้นำของต่างชาติโดยตรง เพราะถ้ายังโหมซื้อต่อเนื่อง ดัชนีก็สามารถไต่ระดับได้อีก แม้จะสวนทางสถานการณ์การเมือง และไม่มีข่าวดีกระตุ้นก็ตาม ส่วนนักลงทุนรายย่อยก็คงจะขายต่อไป เพราะไม่เชื่อว่าดัชนีจะไปได้ไกล หรือสามารถขึ้นแตะที่ระดับ 1,400 จุดได้
ช่วงนี้จึงวัดกันด้วยแรงซื้อของต่างชาติ และแรงขายทำกำไรของรายย่อย ฝ่ายไหนมีพลังมากกว่าจะเป็นผู้กำหนดทิศทางตลาด