“SUTHA” เตรียมเสนอขายไอพีโอ 75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.70 บาท เชื่อได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ไม่หวั่นสถานการณ์การเมือง
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เคที ซีมิโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.สุธากัญจน์ หรือ SUTHA เปิดเผยว่า SUTHA เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.70 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท
นายเชิดเกียรติ มนต์เสรีนุสรณ์ ประธานกรรมการ SUTHA กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินระดมทุนจำนวน 277.5 ล้านบาท ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตปูนไฮเดรต รวมไปถึงนำเงินชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วนที่มีอยู่ประมาณ 20-30% ของเงินที่ได้จากการระดมทุน เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินราว 220 ล้านบาท และอีก 20 ล้านบาท จะนำไปร่วมทุนกับบริษัท PT.KRAKATUA GLODEN LIME ซึ่งเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกับปูนขาวในประเทศอินโดนีเซีย ที่บริษัทถือหุ้นประมาณ 10%
โดยในปี 2557 คาดว่ารายได้ และกำไรของบริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ที่มีรายได้ 857.14 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 100.88 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการเมืองมากนัก และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพราะลูกค้ายังมีความต้องการใช้ปูนขาวร้อน โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ น้ำตาล เหล็ก และอุตสาหกรรมเหมือง
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เคที ซีมิโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.สุธากัญจน์ หรือ SUTHA เปิดเผยว่า SUTHA เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.70 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท
นายเชิดเกียรติ มนต์เสรีนุสรณ์ ประธานกรรมการ SUTHA กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินระดมทุนจำนวน 277.5 ล้านบาท ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตปูนไฮเดรต รวมไปถึงนำเงินชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วนที่มีอยู่ประมาณ 20-30% ของเงินที่ได้จากการระดมทุน เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินราว 220 ล้านบาท และอีก 20 ล้านบาท จะนำไปร่วมทุนกับบริษัท PT.KRAKATUA GLODEN LIME ซึ่งเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกับปูนขาวในประเทศอินโดนีเซีย ที่บริษัทถือหุ้นประมาณ 10%
โดยในปี 2557 คาดว่ารายได้ และกำไรของบริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ที่มีรายได้ 857.14 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 100.88 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการเมืองมากนัก และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพราะลูกค้ายังมีความต้องการใช้ปูนขาวร้อน โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ น้ำตาล เหล็ก และอุตสาหกรรมเหมือง
