ว่ากันว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ที่ยุทธศาสตร์ของ กปปส.มุ่งพุ่งเป้าโจมตี “ท่อน้ำเลี้ยง” ของเครือข่ายตระกูลชินวัตร ซึ่งจะว่าไปแล้ว อาณาจักรของตระกูลนี้โยงใยเป็นเครือข่าย ทั้งที่เป็นนอมินีอยู่ในธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจสนามกอล์ฟ แต่ที่ตรงๆ เห็นกันชัดๆ คงหนีไม่พ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์ “เอสซี แอสเสท” ที่ครั้งหนึ่งยุคทักษิณ ชินวัตร รุ่งเรือง ได้มีการหมายมั่นปั้น เอสซีฯ ติดท็อปไฟว์ในวงการอสังหาฯ...
การพุ่งเป้าฐานกำลังเงินของอาณาจักรตระกูลชินวัตร เปรียบเสมือนการบีบรัดให้ “นายใหญ่” ต้องดิ้นเพื่อรักษาฐานธุรกิจ ก่อนที่จะเสียหายไปมากกว่านี้...การที่ผู้ชุมนุมแวะเวียนไปตึกชินวัตร 3 ก็มีผลกระทบไม่น้อย รายได้อาคารสำนักงานก็มีส่วนหนุนรายได้รวม แว่วๆ มาว่า การค้าการขายโครงการที่อยู่อาศัยอืดๆๆ พอควร!
ตามตัวเลขของเอสซีฯ สินทรัพย์ยังเพิ่มต่อเนื่องมาอยู่ที่ 26,993.28 ล้านบาท ยังทำรายได้รวมปี 56 ถึง 10,000 ล้านบาท กำไร 1,081.62 ล้านบาท แต่ที่ยังน่าฉงนไม่น้อยก็ตรงที่มาร์เกตแคป หรือที่เรียกว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ 17 มี.ค.57 อยู่ที่ 12,177.77 ล้านบาท และหากย้อนไปปี 53 แล้วอยู่ที่ 5,311.89 ล้านบาท แค่นี้ก็แปลความได้ว่า ผู้ถือหุ้นยังร่ำรวย
ล่าสุด เอสซีฯ มอบทนายความยื่นฟ้อง “กำนันสุเทพ” กับพวกรวม 13 คน เป็นจำเลย ปิดล้อมตึกชินฯ 3 โดยอ้างว่า..ส่งผลให้บริษัทเสียโอกาสทางธุรกิจ ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น กระทบต่อโครงการอาคารชุดที่บริษัทดำเนินการอยู่ โดยเรียกค่าเสียหายกว่า 110 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ...อันนี้ยังต้องฟาดฟันอีกหลายยก
แต่ที่สดๆ ร้อนๆ และไม่สามารถคิดเป็นอื่นได้ นอกจาก “ปมการเมือง” เมื่อมีระเบิดที่ถูกดึงสลักตกอยู่หน้าตึกอาคารต้นสนทาวเวอร์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. สร้างความตื่นตระหนกแก่พนักงานออฟฟิศไม่น้อย
ที่อาคารแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของบริษัท โนเบิล ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในยักษ์ใหญ่วงการอสังหาฯ ที่ก่อนหน้านี้ ทายาทของบริษัทนี้ คือ “ลูกนัท” หรือ นายธนัท ธนากิจอำนวย เป่านกหวีดไล่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
...งานนี้ มีการสร้างสถานการณ์ก่อกวนฝ่ายที่เห็นต่างกับเครือข่ายรัฐบาล!!!
ส่วนจะจับมือใครดม เชื่อว่าคงจะไม่ไปถึง “ตัวใหญ่” ได้
แต่เชื่อได้ว่า “โนเบิล” คงไม่ใช่รายสุดท้ายที่เป็นเป้าของพวกที่คิดร้าย!!