ตลาดย่ำฐาน 1,370 จุด มานาน 3 วัน ลุ้นข่าวดีใหม่หนุนดัชนีฯ ไต่ระดับขึ้นสู่แนวต้านสำคัญ 1,380-1,400 จุด เชื่อนักลงทุนหันกลับมาเล่นข่าว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกรอบ ส่วนปัจจัยนอกคาด “เอฟโอเอ็มซี” ปรับลดวงเงิน “คิวอี” ลงเหลือ 5.5 หมื่นล้านดอลล์/เดือน และการคว่ำบาตรรัสเซีย
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก๋ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ดัชนีตลาดฯ ที่ปิดยืนเหนือ 1,370 จุดมาตลอด 3 วันทำการ ทำให้ภาพทางเทคนิคของดัชนีฯ ยังเป็นการไต่ระดับขึ้นสู่แนวต้านสำคัญ 1,380-1,400 จุดในช่วงสั้น ตามที่ได้ประเมินเอาไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนก็ตาม
โดยประเด็นสำคัญในวันนี้อยู่ที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อการพิจารณาอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทาง ศรส.เตรียมเสนอยกเลิก โดยนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาใช้แทน หากเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ นักลงทุนที่มีหุ้นกลุ่มโรงแรม สนามบิน สายการบิน เพื่อสะท้อนผลของการเก็งกำไรดังกล่าว
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ เชื่อว่านักลงทุนจะกลับมาให้น้ำหนักกับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มขึ้นในวันนี้ และสรุปผลในคืนวันพรุ่งนี้ ต่อประเด็นการลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงเป็น 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ ส่วนประเด็นไครเมีย ยังคงต้องติดตามมาตรการคว่ำบาตรของประเทศตะวันตกต่อรัสเซีย
ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ มองว่าตลาดน่าจะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก มองว่าน่าจะขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีขึ้น อย่างผลสำรวจภาคการผลิตงวด มี.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาเพิ่มขึ้น 5.6 จากงวด ก.พ.ที่ลดลง 4.48
นอกจากนี้ ยังคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนด้วย หลังจากที่ไครเมียยอมไปอยู่กับรัสเซีย และทางฝั่งชาติตะวันตกก็ไม่ได้ใช้กำลังทหาร แต่ใช้การเจรจา และมาตรการกดดันทางการทูตแทน
ส่วนตลาดหุ้นไทยก็มีปัจจัยบวกจากการนำเรื่องการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเข้า ครม.ในวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,370 จุด แนวต้าน 1,385-1,390 จุด