xs
xsm
sm
md
lg

“SVI” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 220 ล้านเหรียญ ลูกค้าจ่อคุยงานเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสวีไอ หรือ SVI
เจ้าสัวพงษ์ศักดิ์ คาดรายได้ปีนี้แตะ 220 ล้านเหรียญสหรัฐ ดีต่อเนื่องจากปีที่แล้ว  แย้มมีลูกค้ารายใหม่บริษัทยักษ์รอคุย 2-3 ราย เตรียมลดสัดส่วนในสแกนดิเนเวียลง เพื่อเฉลี่ยตลาดใน 4 กลุ่มหลัก ส่วนแผนการเข้าซื้้อกิจการในสแกนดิเนเวีย เจอโรคเลื่อนจากเหตุราคาหุ้นปรัปตัวแพงขึ้น 20%

นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสวีไอ หรือ SVI เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าประมาณการแนวโน้มธุรกิจปีนี้เติบโตดีต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยคาดว่า จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยลักษณะรายได้จะเป็นการเติบโตแบบไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ จากไตรมาสที่ 1 และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในไตรมาสที่ 4 ซึ่งในตลาดอเมริกามีลูกค้ารายใหม่ที่เตรียมจะเข้ามาเจรจาธุรกิจอีกอย่างน้อย 2-3 รายแต่ยังติดปัญหาในส่วนของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่รัฐบาลประกาศใช้อยู่ในขณะนี้ จึงสร้างความกังวลต่อลูกค้าที่จะเข้ามา

“บริษัทตั้งเป้าปรับปรุงสัดส่วนของอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ให้ได้ 9% ซึ่งขณะนี้บริษัทสามารถทำได้แล้วกว่า 8.2% ซึ่งมียอดขายที่บริษัทจะเน้นสินค้าไฮเทคประเภทอุปกรณ์การแพทย์ที่มีมาร์จิ้นสูง เป็นที่ต้องการของตลาดมาก และมีคู่แข่งน้อย ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 10.5% จากการเข้าไปตั้งโรงงานในประเทศเม็กซิโก ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีต้นทุนการขนส่งที่ลดลง”

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เตรียมที่จะปรับสัดส่วนของลูกค้าในสแกนดิเนเวียที่ยังเป็นตลาดหลักที่มีอัตราการขายอยู่ที่ 30% โดยบริษัทฯจะปรับลดลงเหลือ 25% เพื่อให้ครอบคลุ่มในสัดส่วนที่เท่ากันทั้ง 4 ตลาดหลักคือ ยุโรป อเมริกา เอเชีย และสแกนดิเนเวีย ขณะที่ปัจจัยลบด้านปัญหาการเมืองในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลต่อบริษัทในส่วนของความเชื่อมั่น แต่ขณะนี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และในภาคแรงงานการผลิตที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาในเรื่องค่าแรงที่ไม่คงที่แต่ขณะนี้ได้กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว  

“อย่างไรก็ดี ในส่วนของแผนการเข้าซื้้อกิจการในสแกนดิเนเวียที่บริษัทเตรียมที่จะเข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากราคาหุ้นในยุโรปปรับตัวขึ้นมากว่า 20% ซึ่งถือว่าแพงมาก และไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนในตอนนี้ โดยจะรอให้ราคาปรับตัวลดลงมาจึงจะเข้าไปลงทุน”
กำลังโหลดความคิดเห็น