หุ้นเปิดบวก 0.56 จุด ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ “บล.เมย์แบงก์ฯ” คาดดัชนีจะแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,365-1,380 จุด แนะจับตาประเด็นคาบสมุทรไครเมีย และพัฒนาการของการเมือง องค์กรอิสระ 7 แห่ง รวมถึงกลุ่ม นปช. ที่ออกมาเคลื่อนไหว “บล.ฟิลลิป” มองดัชนีผันผวนจากปัจจัยในต่างประประเทศ แม้จะมีข่าวดีจากการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่อาจไม่ช่วยหนุน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 มี.ค.) ดัชนีเปิดในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 09.57 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,372.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.56 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.04% มูลค่าการซื้อขาย 439.32 ล้านบาท ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,373.71 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 947.55 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,365-1,380 จุด หลังต่างชาติกลับมาลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยหนาแน่นอีกครั้ง เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มระมัดระวังมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเด็นคาบสมุทรไครเมีย น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังไครเมียทำประชามติวานนี้ แม้ว่าจะยังนับคะแนนไม่เสร็จ แต่ผลสำรวจ (Poll) ที่ออกมาระบุว่า ชาวไครเมียต้องการอยู่กับรัสเซีย ขณะที่วันนี้อียูจะหารือด่วนเพื่อหามาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจยูเครน พร้อมกับเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียมากขึ้น หลังยืนยันเตรียมรับไครเมียเข้าเป็นสมาชิกรัสเซีย ซึ่งจะมีการอภิปรายในวันที่ 21 มี.ค.นี้
ขณะที่ประเด็นการเมืองภายในประเทศ ยังคงต้องติดตามพัฒนาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีขององค์กรอิสระ 7 แห่ง รวมถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ที่ออกมาเคลื่อนไหว
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ยอมรับว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากมีปัจจัยลบจากภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความวิตกเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และปัญหาข้อพิพาทระหว่างยูเครน-รัสเซีย แม้จะมีปัจจัยเชิงบวกในประเทศ กรณีคาดการณ์ว่ารัฐบาลรักษาการจะไม่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะหมดอายุลงในสัปดาห์หน้า โดยในวันนี้ประเมินแนวรับ 1,330 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.24 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,370.55 จุด ลดลง 1.63 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 4,006.28 ล้านบาท