กสิกรฯ ชี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเริ่มติดบ่วงสภาพคล่องที่ลามเป็นลูกโซ่ เผยมีเข้ามาขอความช่วยเหลือแล้ว 85 ราย วงเงินรวม 2.7 พันล้านโดยประมาณ พร้อมยืดเวลาชำระหนี้ 3 เดือน หวังช่วยพยุงจนกว่าสถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังคงเป้าสินเชื่อโตที่ 11%
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) บางส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในส่วนของธนาคารเองก็ได้มีการติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คำปรึกษา และหาทางแก้ไขหากเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก็มีผู้ประกอบการเข้ามาขอความช่วยเหลือแล้ว 85 ราย วงเงิน 36 ล้านบาทต่อราย คิดเป็นวงเงินรวม 2,700 ล้านบาทโดยประมาณ
ทั้งนี้ ธนาคารก็ได้ให้ความช่วยเหลือโดยขยายระยะเวลาในการชำระเงินต้นออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้ และหวังว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลงบ้างแล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ โดยปัญหาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ประสบเป็นการขาดสภาพคล่อง
“การขาดสภของคนบางกลุ่มก็ส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปเรื่อยๆ เช่น ชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ก็ไม่ได้จ่ายค่าปุ๋ย ค่างวดรถ หรือภาคธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ขาดสภาพคล่องหลังจากโครงการก่อสร้างต่างๆ ถูกชะลอไป ธุรกิจโรงแรม หรือเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยว ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งก็หวังว่าภายใน 3 เดือนข้างหน้า สถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น และธนาคารก็ยังติดตาม และพร้อมที่จะแก้ปัญหาร่วมกับลูกค้าต่อไป”
ยืนเป้าสินเชื่อโต 11%
สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในปีนี้ที่ 11% นั้น ก็ยังคงไว้ในระดับเดิม แม้ว่าช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อจะทรงตัว เนื่องจากมีผู้ประกอบการส่วนหนึ่งคืนเงินกู้ที่ไม่ได้ใช้ และคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกสินเชื่อเพิ่มขึ้นเพียง 1-2%เท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ช่วงครึ่งปีแรกสินเชื่อเอสเอ็มอีจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการขยายตัวของสินเชื่อที่ 10% นั้น ก็ถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายในปีนี้ เนื่องจากผู้ประกอบที่เป็นลูกค้าเก่าบางส่วนชะลอการลงทุน ดังนั้น จึงพยายามหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อขยายสินเชิ่อ ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ก็จะพยายามให้อยู่ในระดับ 2.8% เท่ากับปลายปีก่อน
“ในปีนี้เราคงต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นในการหาลูกค้าใหม่เข้ามา โดยเฉพาะในเรื่องการพิจารณาข้อมูลแวดล้อมต่างๆ เพื่ออนุมัติสินเชื่อ เนื่องกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีมักจะมีข้อมูลด้านเอกสารที่ไม่ครบถ้วน และลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เข้าไปก็อาจจะไม่ใช่เกรดระดับที่ดีที่สุดเหมือนกับที่เราเคยได้มา ดังนั้น การพิจารณาข้อมูลแวดล้อมอื่นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทีมจะต้องค้นหา และพิจารณาให้ถี่ถ้วนขึ้น แต่เกณฑ์การพิจารณาโดยรวมยังคงความเข้มงวดเช่นเดิม”
ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมกับโพสต์ พับลิชชิง และพันธมิตรอีก 7 รายได้แก่ CP ALL, Ensogo, Loxley, Makro, Tesco Lotus, The mall และ TV Direct จัดงาน Post Today - K SME Expo 2014 ตอน Mega Business Matching ในวันพุธที่ 23 เมษายน ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น. ณ ห้องบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ซึ่งภายในงานพบกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับพันธมิตรชั้นนำ โดยตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมจับคู่ธุรกิจ 200 ราย มูลค่าการซื้อขายกว่า 2,000 ล้านบาท