ธปท. ปล่อยแบงก์ตัดสินใจความเสี่ยงปล่อยกู้จำนำข้าว ยันไม่พบ ปชช. แห่ถอนเงินฝาก

ธปท. ยันไม่ก้าวล่วงแบงก์ตัดสินใจปล่อยกู้จำนำข้าว เพราะธนาคารมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเอง เนื่องจากมีทีมกฎหมายวิเคราะห์ความเสี่ยงเครดิต ย้ำไม่พบ ปชช. แห่ถอนเงินฝากแบงก์ที่เกี่ยวข้องโครงการจำนำข้าว มั่นใจฐานะสถาบันการเงินของไทยมีความแข็งแกร่ง

นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้มีการประชุมร่วมกับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะฝ่ายสินเชื่อ และบริหารความเสี่ยง เพื่อสรุปภาพรวมผลการตรวจสอบธนาคารประจำปี 2556 ซึ่งเป็นการประชุมตามปกติ ไม่ได้มีการหารือถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวแต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นการตัดสินเชิงธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแต่ละแห่งจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง เพราะมีทีมกฎหมายที่วิเคราะห์ความเสี่ยงด้านเครดิตและกฎหมาย ซึ่ง ธปท.จะไม่ก้าวล่วงการตัดสินใจ เพราะ ธปท. ดูแลธนาคารเกี่ยวกับมาตรฐานการให้สินเชื่อเท่านั้น

ส่วนกรณีที่กระแสข่าวว่ามีประชาชนถอนเงินสดออกจากสถาบันการเงินที่มีข่าวเกี่ยวกับการปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวจนผิดปกติ นั้น นางสาลินี ยืนยันว่า จากการติดตามของ ธปท.ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประชาชนถอนเงินในระบบธนาคารพาณิชย์จนผิดปกติจนน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ซึ่งจากสถานการณ์การเมืองและการชุมนุมที่เกิดขึ้นยืดเยื้อ ธนาคารพาณิยช์ก็ยังสามารถที่จะให้บริการประชาชนได้ตามปกติ แม้จะมีการปิดสาขาและตู้เอทีเอ็มในบางพื้นที่ที่มีการชุมนุมบ้าง แต่ธนาคารพาณิชย์ก็สามารถปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ BCP ได้ดี

ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าฐานะสถาบันการเงินของไทยมีความแข็งแกร่ง โดยมีการกันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ สูงถึง 3.8% ของสินเชื่อรวม ซึ่งธนาคารสามารถประคองลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงทั้งเศรษฐกิจและการเมืองได้ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ที่ธนาคารมีมาตรการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าที่มีปัญหา โดย ธปท.พอใจที่ธนาคารพาณิชย์ยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่ดีที่สนับสนุนการพัฒนาของประเทศ และยังรักษามาตรฐานคุณภาพการปล่อยสินเชื่อ โดยดูแลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)อยู่ที่ประมาณกว่า 2% ในปี 2556 ซึ่งแม้ว่าปีนี้เอ็นพีแอลจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะสามารถบริหารจัดการได้