กู้จำนำข้าวล่ม “แบงก์พาณิชย์” ไม่เล่นด้วย “คลัง” อ้างเจอดอกเบี้ยสูง ขณะที่แบงก์ยอมรับโครงการมีความเสี่ยง ผลดำเนินงานขาดทุนจำนวนมาก แถมยังมีการสอบสวนการทุจริต
มีรายงานจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า กรณีสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ทำหนังสือขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำไปใช้ในการจ่ายค้างชำระโครงการจำนำข้าว ซึ่งวานนี้ธนาคารพาณิชย์ได้เสนอเงื่อนไขการปล่อยกู้ให้กระทรวงการคลังพิจารณา ปรากฏว่า เงื่อนไขการปล่อยเงินกู้สถาบันการเงินได้กำหนดดอกเบี้ยในอัตราสูง
กรณีดังกล่าว ทำให้กระทรวงการคลัง ตัดสินใจยังไม่กู้เงินตามเงื่อนไขที่ธนาคารต่างๆ เสนอมา และจะเจรจากับธนาคารพาณิชย์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งตามแผนกู้เงิน กระทรวงการคลัง จะขอกู้จากธนาคารพาณิชย์ 20,000 ล้านบาทต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้มีการเปิดประมูลเงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ก้อนแรก 2 หมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 1.3 แสนล้านบาท โดยเปิดให้ธนาคารยื่นซองประมูลถึง 10.00 น. ของวันที่ 30 ม.ค.2556 แต่ผลปรากฏว่า ไม่สามารถหาผู้เข้าประมูลเงินกู้ดังกล่าวได้เลยแม้แต่สถาบันเดียว
สำหรับการเปิดประมูลดังกล่าว ได้มีการเชิญสถาบันการเงิน 34 แห่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ยื่นซองเข้าประมูล เนื่องจากกังวลถึงเรื่องภาพลักษณ์องค์กร และธรรมาภิบาลของธนาคาร เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นที่รู้กันว่ามีการขาดทุนเป็นจำนวนมาก และมีการทุจริตซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงไม่มีสถาบันการเงินแห่งไหนเสี่ยงที่จะปล่อยกู้เลย
ขณะที่สถาบันการเงินที่ยื่นซองเข้าประมูลก็เสนออัตราดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก เพื่อให้กระทรวงการคลังรับไม่ได้ เป็นการปฏิเสธการให้กู้ทางอ้อม เพราะไม่อยากให้กระทรวงการคลังมองว่าไม่ให้ความร่วมมือ
“สถาบันการเงินกลัวมากที่จะปล่อยกู้ให้โครงการรับจำนำข้าว เพราะตอนนี้กระแสสังคมแรงมากเรื่องการต่อต้านการโกง หากธนาคารไปปล่อยกู้ให้แก่โครงการที่มีการทุจริตก็กล้วว่าจะถูกม็อบมาปิดแบงก์ และประชาชนแห่ถอนเงินฝาก เพราะไม่พอใจธนาคาร” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้อมูลการประมูลถูกปิดเป็นความลับ มีเพียง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และ น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการ สบน. เท่านั้นที่รู้ข้อมูล โดยหลังปิดการประมูลกระทรวงการคลังได้พยายามติดต่อไปยังธนาคารพาณิชย์บางแห่งให้เข้ามาช่วยประมูลเงินกู้ แต่ก็ไม่เป็นผล
นอกจากนี้ การที่ให้ปิดผลการประมูลเงินกู้เป็นความลับ เนื่องจากไม่ต้องการล้มการประมูล เพราะจะทำให้กระทรวงการคลัง และรัฐบาลเสียภาพลักษณ์ ไม่มีความน่าเชื่อถือ จึงจะแก้ไขโดยไปขอให้สถาบันการเงินเข้ามาประมูลปล่อยกู้ โดยจะสัญญาว่าจะปิดรายชื่อผู้ให้กู้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้สถาบันการเงินดังกล่าวมีปัญหา
ขณะที่แหล่งข่าวจากแบงก์พาณิชย์ยอมรับว่า สาเหตุที่โครงการนี้ต้องคิดอัตราดอกเบี้ยสูง เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความเสี่ยง ทั้งในแง่ของการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากมีผลขาดทุนจำนวนมหาศาล และความเสี่ยงต่อเงื่อนไขกฎหมาย เนื่อจากอยู่ระหว่งการตรวจสอบการทุจริต ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาได้ในครั้งต่อไป