TMI มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20-30% ตามการขยายตัวของ Modern Trade ที่ได้ขยายสาขาออกไปอย่างต่อเนื่อง เล็งเพิ่มสินค้าใหม่อีก 10 ชนิด พร้อมเปิดแผนรุกเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า บริษัตั้งเป้ารายได้ปี 2557 เติบโต 20-30% จากปีก่อน ที่คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียง 457.74 ล้านบาทในปี 2555 เนื่องจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงค่อนข้างมาก ประกอบกับ ในช่วงไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2557 บริษัทฯ ตั้งเป้าโตราว 20-30% จากปี 2556 ตามการขยายตัวของ Modern Trade ที่ได้ขยายสาขาออกไปอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ คาดว่าจะออกผลิตภัณ์ใหม่ๆ ได้อีก 10 ชนิด โดยเฉพาะในกลุ่มโคมไฟ และหลอดไฟ ที่จะช่วยให้สามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้าที่เพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 20% จากปัจจุบันที่ 10% กว่า โดยจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ขายให้แก่ลูกค้าเดิม และเพิ่มการจำหน่ายไปยังประเทศอื่นๆ อีกอย่างน้อย 3-5 ประเทศ จากปีที่ผ่านมา จำหน่ายไปแล้วกว่า 10 ประเทศ ทั้งในตะวันออกกลาง และประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ไม่มีความแน่นอน
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า บริษัทฯ คาดว่ากำไรปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น โดยที่ปีนี้บริษัทฯ จะปรับราคาสินค้าขึ้นราว 2% ประกอบกับจะมีการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มซัปพลายเออร์ในวัตถุดิบแต่ละชนิด ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีอำนาจในการต่อรองราคาวัตถุดิบได้มากขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนลดลงราว 2-5%
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า บริษัตั้งเป้ารายได้ปี 2557 เติบโต 20-30% จากปีก่อน ที่คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียง 457.74 ล้านบาทในปี 2555 เนื่องจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงค่อนข้างมาก ประกอบกับ ในช่วงไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2557 บริษัทฯ ตั้งเป้าโตราว 20-30% จากปี 2556 ตามการขยายตัวของ Modern Trade ที่ได้ขยายสาขาออกไปอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ คาดว่าจะออกผลิตภัณ์ใหม่ๆ ได้อีก 10 ชนิด โดยเฉพาะในกลุ่มโคมไฟ และหลอดไฟ ที่จะช่วยให้สามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้าที่เพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 20% จากปัจจุบันที่ 10% กว่า โดยจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ขายให้แก่ลูกค้าเดิม และเพิ่มการจำหน่ายไปยังประเทศอื่นๆ อีกอย่างน้อย 3-5 ประเทศ จากปีที่ผ่านมา จำหน่ายไปแล้วกว่า 10 ประเทศ ทั้งในตะวันออกกลาง และประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ไม่มีความแน่นอน
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า บริษัทฯ คาดว่ากำไรปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น โดยที่ปีนี้บริษัทฯ จะปรับราคาสินค้าขึ้นราว 2% ประกอบกับจะมีการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มซัปพลายเออร์ในวัตถุดิบแต่ละชนิด ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีอำนาจในการต่อรองราคาวัตถุดิบได้มากขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนลดลงราว 2-5%
