หุ้นไทยสุดผันผวนปิดลบ 2.61 จุด กังวลสถานการณ์ทางการเมือง แม้จะมีการเก็งกำไรหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่เพื่อรับข่าว กนง. คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% หนุนดัชนีปรับบวก แต่ก็เจอแรงขายหนักในหุ้นพลังงานตัวใหญ่ ส่งดัชนีกลับไปในแดนลบ คาดพรุ่งนี้มีลุ้นรีบาวนด์เนื่อจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไร้เหตุการณ์รุนแรง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (22 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,290.49 จุด ลดลง 2.61 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31,760.74 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้แม้จะมีแรงซื้อหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ดันดัชนีภาคบ่ายปรับขึ้นแดนบวก เพื่อรับข่าวผลประชุม กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% แต๋ก็มีแรงเทขายในหุ้นพลังงานตัวใหญ่ ฉุดดัชนีปรับลงในแดนลบ
ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,091.04 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 469.74 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 861.64 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ ซื้อสุทธิ 240.34 ล้านบาท
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีวันนี้ปรับตัวลงไปที่แนวรับ 1,280 จุด และสามารถฟื้นตัวกลับมาได้บ้าง เนื่อจากนักลงทุนมองว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นสิ่งที่ดีในการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดความรุนแรงมากขึ้น และควบคุมได้ยาก
ขณะที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจไทยในระยะยาวยังแข็งแกร่ง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) นายปริญทร์ ประเมินว่า หากไม่มีปัจจัยการเมืองเชิงลบเข้ามาเพิ่มเติม ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวนด์ขึ้นมาได้ พร้อมให้แนวรับที่ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300-1,305 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,828.25 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,216.21 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,696.79 ล้านบาท ปิดที่ 7.25 บาท ลดลง 0.05 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,297.97 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,289.93 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
