“ไตรสรณ์ วรญาณโกศล” ยืนยันผู้บริหาร SPVI ไม่มีนโยบายขายหุ้นเดิมทิ้ง แจงราคาหุ้นลดลงเป็นไปตามภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง และเป็นช่วงต่างชาติหยุดทำการซื้อขาย รับมีพนักงานขายหุ้นบางส่วนหลังรับสิทธิซื้อในราคาไอพีโอ เชื่อพนักงานขายหุ้นแค่สัดส่วนน้อย ไม่มีผลต่อภาพรวม พร้อมมั่นใจปีหน้าปั๊มยอดขายโต 10-15% มั่นใจสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในอนาคตได้ดี
นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI กล่าวว่า หลังจากที่ SPVI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงจากการซื้อขายครั้งแรก ซึ่งก็เป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง โดยคาดว่ามาจากปัจจัยความกดดันทางการเมือง และนักลงทุนต่างชาติเริ่มหยุดทำการซื้อขายเพื่อพักผ่อนในเทศกาลปีใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพนักงานของบริษัทขายหุ้นออกมาบ้าง แต่เป็นหุ้นในส่วนไอพีโอที่จัดสรรให้ ซึ่งพนักงานได้รับสิทธิซื้อในราคาจองที่ 0.90 บาท และยืนยันว่า ในส่วนของผู้บริหารของ SPVI ไม่มีใครนำหุ้นเดิมก่อนไอพีโอออกมาขาย เนื่องจากคณะผู้บริหารยังมีความมุ่งมั่นที่จะนำพาธุรกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคต และมีความตั้งใจที่จะสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
“พนักงานที่ขายหุ้นออกไปเป็นจำนวนไม่มาก จึงไม่น่ามีผลต่อราคาหุ้น แต่สาเหตุราคาหุ้นที่ปรับลดลงเชื่อว่าเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ซบเซาลงจากแรงกกดดันของการเมืองในประเทศ และปัจจัยภายนอก และในส่วนหุ้นที่พนักงานขายออกมาก็เป็นหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อในราคาจอง โดยหุ้นเดิมที่ถือไว้ก่อนนี้ก็ไม่มีใครขายออกมา” นายไตรสรณ์
โดยในปี 2557 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 10-15% ซึ่งจะเติบโตจากปี 2556 ที่คาดว่ารายได้จะมากกว่า 2,000 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรก สามารถทำรายได้ที่ 1,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากการขายสินค้าเดิมของ APPLE เนื่องจากไม่มีสินค้าใหม่ออกมาในช่วงดังกล่าว แต่ในไตรมาส 4/2556 แนวโน้มยอดขายน่าจะเร่งตัวขึ้น เนื่องจาก APPLE ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้ง iPhone5s iPad mini with Retina และ iPad Air
สำหรับ บมจ.เอส พี วี ไอ มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท