“เวิลด์แก๊ส” เข้าถือหุ้น PICNI 85.13% ผู้บริหารยังตอบไม่ชัด Backdoor เข้าตลาด แม้ว่ามีแผนเข้าตลาดในอนาคตก็ตาม แต่การจะนำ “เวิลด์แก๊ส” เข้าตลาดฯแทน PICNI หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการของบริษัท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าถือหุ้น บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.56 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 85.13% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 85.13% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การที่ “เวิล์ดแก๊ส” เข้าไปลงทุนใน PICNI เป็นไปตามแผนการฟื้นฟูกิจการของ PICNI ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการเข้าเอาเงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ต่อไป โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นเจ้าหนี้หลัก เมื่อชำระหนี้เสร็จแล้วจะดำเนินการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลฯ และดำเนินการขอกลับมาเทรดในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ในปี 57
ภายหลังเข้าไปลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ PICNI แล้ว จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป โดยการชำระหนี้ของ PICNI ไปจนถึงการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการคาดว่าจะชัดเจนได้ภายในไตรมาส 1/57 ส่วนการกลับเข้าไปเทรดในตลาดหลักทรัพย์จะต้องรอดูจังหวะ และดูว่า PINIC จะทำตามเกณฑ์ของตลาดฯ ได้แค่ไหน
สำหรับ “เวิลด์แก๊ส” ยังเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่ง และ PICNI ถือเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่ง ซึ่งบริษัทยังไม่คิด Backdoor เข้าตลาด แม้ว่ามีแผนเข้าตลาดในอนาคตก็ตาม แต่การจะนำ “เวิลด์แก๊ส” เข้าตลาดฯ แทน PICNI หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าถือหุ้น บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.56 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 85.13% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 85.13% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การที่ “เวิล์ดแก๊ส” เข้าไปลงทุนใน PICNI เป็นไปตามแผนการฟื้นฟูกิจการของ PICNI ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการเข้าเอาเงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ต่อไป โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นเจ้าหนี้หลัก เมื่อชำระหนี้เสร็จแล้วจะดำเนินการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลฯ และดำเนินการขอกลับมาเทรดในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ในปี 57
ภายหลังเข้าไปลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ PICNI แล้ว จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป โดยการชำระหนี้ของ PICNI ไปจนถึงการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการคาดว่าจะชัดเจนได้ภายในไตรมาส 1/57 ส่วนการกลับเข้าไปเทรดในตลาดหลักทรัพย์จะต้องรอดูจังหวะ และดูว่า PINIC จะทำตามเกณฑ์ของตลาดฯ ได้แค่ไหน
สำหรับ “เวิลด์แก๊ส” ยังเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่ง และ PICNI ถือเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่ง ซึ่งบริษัทยังไม่คิด Backdoor เข้าตลาด แม้ว่ามีแผนเข้าตลาดในอนาคตก็ตาม แต่การจะนำ “เวิลด์แก๊ส” เข้าตลาดฯ แทน PICNI หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท