“ไอเอ็มเอฟ” แนะรัฐบาลขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มใกล้ 10% เลิกโครงการรับจำนำข้าว เพื่อลดภาระการคลัง พร้อมเสนอให้จ่ายตรงเข้ามือชาวนา แทนรับซื้อข้าวราคาสูงกว่าตลาด
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกรายงานเศรษฐกิจไทยเสนอให้รัฐบาลให้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวตจาก 7% เป็นระดับใกล้เคียงประเทศเพื่อบ้านที่ 10% ให้ขึ้นภาษีทรัพย์สิน และตัดค่าลดหย่อนทางการภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อเพิ่มรายได้ภาษีให้มากขึ้น
ไอเอ็มเอฟ ประเมินว่า รัฐบาลกลางจะขาดดุลงบประมาณเพิ่มเป็น 3.4 % ต่อจีดีพีในปีนี้ เพิ่มจาก 1.7% ต่อจีดีพี ในปี 2554 และหนี้สาธารณะจะเกิน 53% ของจีดีพี ภายในปี 2561 ในขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะรักษาหนี้สาธาณะไว้ไม่ให้เกิน 50% ต่อจีดีพี และทำให้งบประมาณสมดุลภายในปี 2560 ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไทยปีนี้จะขยายตัวในระดับต่ำที่ 3.1% แต่เติบโตสูงขึ้นเป็น 5.2% ในปีหน้า
ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายงบประมาณสมดุล รัฐบาลจึงต้องหารายได้เพิ่มด้วยการขึ้นภาษี และลดค่าใช่จ่ายที่ไม่จำเป็นลง
ไอเอ็มเอฟ เสนอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว เพื่อลดภาระทางการคลัง โดยเสนอให้รัฐบาลจ่ายเงินโดยตรงเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ยากจน แทนการรับซื้อข้าวในราคาสูงกว่าตลาด ดังเช่นที่รัฐบาลปฏิบัติอยู่ในขณะนี้ ไอเอ็มเอฟ ยังเสนอให้ยุติการอุดหนุนราคาพลังงาน
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังแนะนำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับปกติ หากมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น โดยดอกเบี้ยนโยบายของไทยขณะนี้อยู่ที่ 2.5% ซึ่งไอเอ็มเอฟ และธนาคารแห่งประเทศเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติ