ทรุดยาว
บรรยากาศการลงทุนส่งท้ายสัปดาห์ไม่สดใสนัก เนื่องจากแรงกดดันจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งพรรคเพื่อไทย ใช้ระบบพวกมากลากไป และรับคำบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านวาระ 3 ไปเรียบร้อย โดยไม่สนใจกระแสต่อต้าน ทำให้นักลงทุนกังวลในสถานการณ์การเมือง เพราะประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านจนนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงได้
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,429.08 จุด ลดลง 13.80 จุด มูลค่าซื้อขาย 29,421 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,771 ล้านบาท
การทรุดตัวของตลาดเกิดจากความกังวลในสถานการณ์การเมือง ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย มีแต่ปะทุตอเนื่อง เพราะฝ่ายค้าย และประชาชนกลุ่มต่างๆ ไม่ยอมให้รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ออกกฏหมายเพือล้างผิดให้คนเพีงคนเดียว โดยนำอำนาจของปวงชนไปใช้เพื่อประโยชน์สุขของคนเพียงกลุ่มเดียว โดยการลุกฮือของประชาชนจะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้
นักลงทุนต่างชาติที่กลับมาขายหนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลพวงจากความไม่เชื่อมั่นทางการเมือง ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่คงจะไม่จบง่ายๆ หมายความว่า ตลาดหุ้นจะถูกครอบงำด้วยคัวแปรการเมืองต่อไป และมีโอกาสทรุดลงต่อเนื่อง เพราะไม่ใช่การเมืองเท่านั้นที่แย่ เศรษฐกิจก็ยังซบเซาด้วย
สำหรับนักลงทุนทำได้อย่างเดียวคือ รอคอย รอจังหวะช้อนซื้อเมื่อสถานการณ์สุกงอม ส่วนคนที่ใจร้อนเข้าไปช้อนซื้อก่อนน่าจะติดระดับยอดดอยไปแล้ว สำหรับคนที่ใจเย็นรอจังหวะซื้ของถูกได้สบายๆ ไม่ต้องรีบ
บรรยากาศการลงทุนส่งท้ายสัปดาห์ไม่สดใสนัก เนื่องจากแรงกดดันจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งพรรคเพื่อไทย ใช้ระบบพวกมากลากไป และรับคำบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านวาระ 3 ไปเรียบร้อย โดยไม่สนใจกระแสต่อต้าน ทำให้นักลงทุนกังวลในสถานการณ์การเมือง เพราะประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านจนนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงได้
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,429.08 จุด ลดลง 13.80 จุด มูลค่าซื้อขาย 29,421 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,771 ล้านบาท
การทรุดตัวของตลาดเกิดจากความกังวลในสถานการณ์การเมือง ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย มีแต่ปะทุตอเนื่อง เพราะฝ่ายค้าย และประชาชนกลุ่มต่างๆ ไม่ยอมให้รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ออกกฏหมายเพือล้างผิดให้คนเพีงคนเดียว โดยนำอำนาจของปวงชนไปใช้เพื่อประโยชน์สุขของคนเพียงกลุ่มเดียว โดยการลุกฮือของประชาชนจะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้
นักลงทุนต่างชาติที่กลับมาขายหนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลพวงจากความไม่เชื่อมั่นทางการเมือง ซึ่งไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่คงจะไม่จบง่ายๆ หมายความว่า ตลาดหุ้นจะถูกครอบงำด้วยคัวแปรการเมืองต่อไป และมีโอกาสทรุดลงต่อเนื่อง เพราะไม่ใช่การเมืองเท่านั้นที่แย่ เศรษฐกิจก็ยังซบเซาด้วย
สำหรับนักลงทุนทำได้อย่างเดียวคือ รอคอย รอจังหวะช้อนซื้อเมื่อสถานการณ์สุกงอม ส่วนคนที่ใจร้อนเข้าไปช้อนซื้อก่อนน่าจะติดระดับยอดดอยไปแล้ว สำหรับคนที่ใจเย็นรอจังหวะซื้ของถูกได้สบายๆ ไม่ต้องรีบ
