xs
xsm
sm
md
lg

เม็ดเงินทะลักเข้ากว่า 2 พันล้านดอลล์ รบ. ตั้งวอร์รูมเฉพาะกิจ มอนิเตอร์สถานการณ์ 17 ต.ค. ใกล้ชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สศค.” มั่นใจ “สหรัฐฯ” ขยายเพดานหนี้สำเร็จ เตือนนักลงทุนรับมือ “ตลาดเงิน-ตลาดทุน” ผันผวน เชื่อมั่น “ธปท.” มีเครื่องมือที่สามารถรับสถานการณ์ได้ เผยขณะนี้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หวั่นค่าเงินอ่อนยวบไปแตะ 31 บาท/ดอลลาร์ “ปู” สั่งตั้งวอร์รูมเฉพาะกิจ มอนิเตอร์สถานการณ์ 17 ต.ค. อย่างใกล้ชิด

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อํานวยการ สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค.ถึงกรณีเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยระบุว่า ขณะนี้ทั้งตลาดเงิน และตลาดทุนต่างมองว่าสหรัฐฯ จะสามารถตกลงเรื่องขยายเพดานหนี้ได้ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ เพราะหากตกลงไม่ได้จะมีผลกระทบอย่างมาก ทั้งต่อสหรัฐฯ เอง และตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกค่อนข้างมาก

นายเอกนิติ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องจับตาต่อไป ได้แก่ เรื่องของการพิจารณาลด และยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ที่จะมีการพิจารณาช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งหลายๆ ฝ่ายประเมินว่า สหรัฐฯ จะยังขยายการใช้มาตรการดังกล่าวต่อไป เห็นได้จากยังมีเงินทุนมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยคงต้องจับตาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในตลาดเงินและตลาดทุนให้ดี แม้ว่าสุดท้ายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จะขยายออกไป และแม้ว่าตลาดระยะสั้นมองว่าการยกเลิกคิวอีทำได้ไม่เร็วอย่างที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ ซึ่งอาจทำให้สภาพคล่องยังมีอยู่ และไหลเข้ามาในไทยมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทไทย

นายเอกนิติ กล่าวย้ำว่า ไทยคงต้องเฝ้าระมัดระวัง และติดตามข่าวสารต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพราะตลาดเงินตลาดทุนยังมีความผันผวนมาก ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้ สศค. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยติดตามสถานการณ์ของสหรัฐฯ ที่จะกระทบไทยอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม สศค.มั่นใจว่ากลไก และเครื่องมือที่ ธปท.มีอยู่ขณะนี้ ยังสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดเงินที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งนายสมชัย สั่งให้ทำแบบจำลองกรณีเลวร้ายสุด หากสหรัฐฯ ไม่สามารถตกลงกันได้เพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วานนี้ ได้ประเมินถึงผลกระทบจากปัญหาการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งที่ประชุมได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง และ ธปท. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อหามาตรการในการรองรับผลกระทบที่จะขึ้นอีกครั้งในเดือน พ.ย. ที่สหรัฐฯ ต้องชำระหนี้รอบใหม่สูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในที่ประชุม กระทรวงการคลัง และ ธปท. ยืนยันมีมาตรการในการรับมือเรื่องนี้อย่างเต็มที่

ด้านนายธีรัตน์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจกำชับให้ ธปท.ดูแลค่าเงินบาท หลังจากช่วงนี้มีเงินทุนไหลเข้ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงคาดว่าค่าเงินบาทอาจจะเคลื่อนไหวประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้จัดตั้งคณะทำงานย่อย ประกอบไปด้วย กระทรวงการคลัง ธปท. และสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 17 ต.ค.นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
กำลังโหลดความคิดเห็น