ประเมินผลแผนฟื้นฟูฯ “เอสเอ็มอีแบงก์-ไอแบงก์” จับตาใส่เงินเพิ่มทุน ส่งทีมร่วมบริหาร

สศค. เรียกผู้บริหารเอสเอ็มอีแบงก์เข้าหารือ ก่อนประเมินแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ก่อนตัดสินใจเพิ่มทุนเพราะไม่อยากใส่เงินเข้าไปแล้วหายหมด ส่วนแผนฟื้นฟูฯ ไอแบงก์ คืบหน้าน้อยมาก เตรียมส่งผู้บริหารทำงานร่วมกำกับดูแลมากขึ้น

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) สศค. ได้เชิญผู้บริหารของธนาคารเพื่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ มาหารือถึงความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการ ก่อนที่จะหารือกับ นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์อย่างเป็นทางการอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินถึงแผนฟื้นฟูกิจการ ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ยังไม่ได้ลดลงมาก รวมถึงตัวเลขการเพิ่มทุนที่กระทรวงการคลังจะใส่เพิ่มเข้าไปด้วย เพราะเงินที่จะเพิ่มทุนนั้นได้ตั้งไว้แล้วในงบประมาณปี 2557

“การเพิ่มทุนต้องดูว่าธนาคารพร้อมแค่ไหน เพราะไม่อยากใส่เงินเข้าไปแล้วหายหมด แต่อยากให้เกิดประสิทธิภาพ”

ส่วนรายงานผลการตรวจสอบระบบการปล่อยสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่พบว่ามีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตนั้นให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการธนาคารที่จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเอง รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารก็ถือว่าเป็นเรื่องภายในของธนาคาร ที่จะดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

สำหรับความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) มีความคืบหน้าน้อยมาก สศค.จึงได้ส่งผู้บริหารเข้าไปทำงานร่วมกับไอแบงก์ เพื่อกำกับดูแลแผนฟื้นฟูให้มีความคืบหน้ามากขึ้น เพราะขณะนี้ นายธงรบ ด่านอำไพ กรรมการรักษาการกรรมการผู้จัดการของไอแบงก์ ได้ยื่นหนังสือลาออกไปแล้ว และจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 นี้