“กสิกรไทย” หันรุกขายประกันภัยผ่านสาขา จัด 9 แพกเกจประกันวินาศภัย เจาะลูกค้าครบวงจร เผยปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 28% รับโครงการรถคันแรก
นางกิติยา ฤกษ์ภูริทัต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBABK)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกแบบแพกเกจประกันวินาศภัย 9 แบบ เพื่อตอบโจทย์หลากหลายของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเน้นเรื่องความสะดวก และการสมัครที่ไม่ซับซ้อน ผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารกว่า 860 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย ประกันวินาศภัยสำหรับบุคคล 5 แพกเกจ ได้แก่ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Accident Protect Plus) สำหรับลูกค้าที่มีอายุ 16-65 ปี ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 3 ล้านบาท เบี้ยประกันเริ่มต้นปีละ 2,500 บาท ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ (PA for Senior) สำหรับลูกค้าอายุ 66-75 ปี ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุดถึงครั้งละ 50,000 บาท เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงปีละ 3,700 บาท
ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้บริหาร (PA for Executive) ให้วงเงินคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 10 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุดครั้งละ 5 แสนบาท เบี้ยประกันเริ่มต้นปีละ 6,600 บาท ประกันภัยวัยซน (PA for Kids) ประกันอุบัติเหตุสำหรับลูก หลานอายุ 1-15 ปี ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ และเงินชดเชยจากการเข้ารักษาตัวจาก 6 โรคยอดฮิต ได้แก่ อาหารเป็นพิษ ไข้เลือดออก หัด ปอดบวม ไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดใหญ่ 2009 และการติดเชื้อในกระแสเลือด เบี้ยประกันปีละ 2,850 บาท ประกันสุขภาพเหมาจ่าย (Health Care Protect) ที่มีจุดเด่น คือ สมัครได้ง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เบี้ยประกันเริ่มต้นปีละ 3,400 บาท
ด้านประกันวินาศภัยสำหรับรถยนต์ 4 แพกเกจ ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (Car Protect 1) ให้ความคุ้มครองทันทีที่สมัคร ไม่ต้องตรวจสภาพรถก่อนการทำประกัน และมีความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการเดินทางขณะนำรถเข้าซ่อมครั้งละ 5,000 บาท ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (Car Protect 3) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่จำกัดยี่ห้อ รุ่น และอายุรถ เบี้ยประกันเริ่มต้นปีละ 2,148 บาท
และประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 (Car Protect 5) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล ประเภทรถเก๋ง กระบะ และรถตู้ คุ้มครองความเสียหายแก่รถยนต์ที่เอาประกันสูงสุดครั้งละ 120,000 บาท เบี้ยประกันเริ่มต้นปีละ 6,800 บาท และประกันภัยตาม พ.ร.บ. (Car protect)
“ตลาดธุรกิจประกันวินาศภัยของไทยมีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 3-5 ปีหลัง เฉลี่ยเติบโตปีละ 12-13% แต่ในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 28% เนื่องจากนโยบายรถคันแรก และการปรับอัตราเบี้ยประกันของ Re-Insurer จากสถานการณ์ภัยพิบัติที่ผ่านมา ทั้งนี้ โดยภาพรวมของตลาดสะท้อนว่า ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของการวางแผนป้องกันความเสี่ยงของชีวิตเพื่อรองรับกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากขึ้น”