หุ้นเปิดดิ่งลงทันที 11 จุด โบรกฯ มองทิศทางตลาดเป็นลบจากแรงขายทำกำไร แนะจับตาการประกาศตัวเลขภาคส่งออก หากตัวเลขออกมาดีตลาดก็มีโอกาสดีดขึ้นในระหว่างการเทรด พร้อมให้กรอบ 1,420-1,450 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 ก.ย.) ดัชนีเปิดในแดนลบทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศ โดยเมื่อเวลา 09.57 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,425.20 จุด ลดลง 11.70 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.81% มูลค่าการซื้อขาย 69.69 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่ยังปรับตัวลงได้อยู่จากแรงขายทำกำไร หลังจากที่เมื่อวานนี้ในช่วงท้ายตลาดมีการดีดตัวขึ้น ทั้งที่ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่อะไรเข้ามา และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนลบเล็กน้อย 0.2-0.5%
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องงบประมาณ ทำให้พันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลงด้วย แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเลี่ยงที่จะถือสินทรัพย์เสี่ยง
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกของไทยซึ่งน่าจะออกมาดี โดยคาดว่าสามารถพลิกเป็นบวกได้ และจะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และหากตัวเลขส่งออกไทยออกมาดีจริง ก็จะทำให้ตลาดมีการดีดกลับได้ในระหว่างวัน
ทั้งนี้ ประเมินแนวรับแรกที่ 1,425 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,420 จุด และประเมินแนวต้านแรกที่ 1,440 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,450 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต มองว่า ตลาดหุ้นวันนี้ จะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัว โดยจะเกิดสัญญาซื้อก็ต่อเมื่อดัชนีสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,450 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,420 จุด
ด้านนายกวี ชูกิจเกษม นักกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย ยอมรับว่า ประเด็นที่นักลงทุนกังวลยังเกี่ยวเนื่องกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะการต่อรองการลดรายจ่ายกับการขยายเพดานหนี้ (Fiscal cliff) ซึ่งคาดว่าระดับของการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะเริ่มน้อยลง และมีโอกาสใกล้ฟื้นตัวขึ้นบ้างเล็กน้อย เพราะประเด็นสหรัฐฯ เป็นเพียงความกังวลระยะสั้น และสุดท้ายจะผ่านไปได้ เพราะเป็นเพียงข้ออ้างในการขายทำกำไรมากกว่า
ทั้งนี้ หากดัชนีหลุดแนวรับลงมาต่ำกว่า 1,428 จุด แนวจะมีแนวรับถัดไปคือ 1,400 จุด หรือ 1,380-1,377 จุด แต่ถึงแม้ว่าจะมีการแกว่งตัวที่แรงกว่าที่คาด แต่ยังมองเป็นการปรับตัวลดลงเพื่อดีดตัวขึ้นต่อในไตรมาสที่ 4 มากกว่า ดังนั้น นักลงทุนควรมองหาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี แล้วรอจังหวะเข้าซื้อตามแนวรับ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,427.42 จุด ลดลง 9.48 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.66 มูลค่าการซื้อขาย 1,546.66 ล้านบาท
