ก.ล.ต.เตรียมส่งข้อมูลปั่นหุ้น และใช้ข้อมูลอินไซด์ 6 ราย เพื่อให้ ปปง.เชือด หลังสำนักงาน ปปง.เพิ่มบทลงโทษความผิดมูลฐาน สามารถยึด และอายัดทรัพย์ในคดีหลักทรัพย์ได้ เชื่อแนวโน้มการปั่นหุ้นจะน้อยลง แต่การใช้ข้อมูลภายในอาจเพิ่มขึ้น
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.เตรียมรายงานข้อมูลการกล่าวโทษผู้กระทำความผิดให้สำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบ หลังตั้งแต่ต้นปีถึงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีการกล่าวโทษ 6 ราย แบ่งเป็นการสร้างราคาหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) จำนวน 5 ราย และการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน (อินไซเดอร์ เทรดดิ้ง) หรือการบอกกล่าวที่เป็นเท็จ 1 ราย
ทั้งนี้ เป็นผลจากตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปปง.ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายด้านตลาดทุนเกี่ยวกับการกระทำผิดในคดีหลักทรัพย์ โดยเพิ่มความผิดมูลฐานจากการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม ทั้งจากการสร้างราคา และใช้ข้อมูลภายใน ทำให้ ปปง.สามารถยึด หรืออายัดทรัพย์ในทางแพ่ง รวมถึงดูเรื่องการฟอกเงินได้ จากปัจจุบันที่ ก.ล.ต. สามารถเอาผิดทางอาญาเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังประกอบกับเงื่อนไขในการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่มบทลงโทษทางแพ่ง คงไม่ทันภายในปีนี้ และต้องใช้เวลานาน 3-5 ปี เพราะขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงการคลัง และรอ รมว.คลังพิจารณา จากนั้นต้องเสนอให้กฤษฎีกา และเข้าสู่ที่ประชุม ครม. รวมถึงการพิจารณาของสภาฯ
สำหรับความร่วมมือกับ ปปง.ครั้งนี้ จะทำให้ผู้ที่คิดฝ่าฝืนรู้ว่าปัจจุบันมีกฎหมายหลายฉบับดูแลอยู่ เพราะนอกจาก พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ แล้ว ยังมีกฎหมายฟอกเงิน ดังนั้น จึงไม่ควรคิดฝ่าฝืน แม้ปัจจุบันระเบียบที่ ก.ล.ต.ต้องรายงาย ปปง.ยังไม่ออกมาเป็นทางการ แต่การประสานงานต้องทำได้อยู่แล้ว และระหว่างนี้ ก.ล.ต.จะรายงานข้อมูลไปยัง ปปง. โดยที่ไม่มีแบบการรายงานข้อมูล
อย่างไรก็ตาม มองว่าในอนาคตการสร้างราคาหลักทรัพย์อาจทำได้น้อย เพราะคนเริ่มเข้าใจการลงทุนมากขึ้นโดยลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี แต่อาจมีการใช้ข้อมูลภายในแทน เพราะเมื่อการหาประโยชน์จากการสร้างราคาทำได้ยาก จึงต้องเอาเปรียบโดยใช้จังหวะซื้อหลักทรัพย์ก่อนการเปิดเผยข้อมูล