สุดทางขาขึ้น
ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับสู่ความซบเซาอีกครั้ง หลังจากตอบรับความคาดหมายมาตรการคิวอีไปเมื่อต้นสัปดาห์ แต่เมื่อขาดปัจจัยใหม่จึงหมดแรงกระตุ้นทำให้นักลงทุนไม่กล้าลุยซื้อ ดัชนีจึงเคลื่อนไหวในลักษณะประคับประคองตัว ซึ่งอาจดำเนินไปจนสิ้นสุดไตรมาสที่ 3
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,439.13 จุด ลดลง 4.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,790 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,034 ล้านบาท
อาการตลาดแสดงให้เห็นชัดเจนว่าขาดแรงขับเคลื่อน โดยแม้มูลค่าการซื้อขายจะหนาตา แต่นักลงทุนก็ระมัดระวังตัวไม่กล้าผลีผลามไล่หุ้น โดยเก็งกำไรในช่วงราคาที่แคบมาก และหันไปคอยประเมินแนวโน้มมากกว่า ซึ่งในช่วงสั้นไม่อาจประเมินอะไรได้มากนัก
ส่วนการที่ต่างชาติกลับมาขายไม่มีนัยสำคัญอะไร โดยก่อนหน้าซื้อไปเยอะ และบางกลุ่มอาจทยอยลดน้ำหนักจึงไม่ต้องตื่นกลัวจนเกินเหตุ เพียงแต่ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างจับติดเท่านั้น ถ้าหากขายจริง ขายหนัก และต่อเนื่องค่อยชิงเผ่นออกก่อน
แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้คงไม่แตกต่างจากวันนี้เท่าไหร่นัก โดยขึ้นลงในกรอบแคบๆ ดัชนีย่ำฐานไปอีกสักพัก และไม่มีหุ้นกลุ่มไหนจูงใจให้ต้องรีบเก็บ
เพราะเมื่อภาพตลาดรวมนิ่งก็คงไม่มีกลุ่มไหนสวนทางขึ้นไป ยกเว้นหุ้นตัวเล็กที่มีการจุดพลุเก็งกำไร แต่เป็นอันตรายสำหรับนักลงทุนที่จะตามแห่ เพราะชีพจรเก็งกำไรหุ้นตัวเล็กสั้นมากๆ สั้นจนนัลงทุนราย่อยหนีไม่ทัน ติดหุ้นตัวเล็กเป็นแถว ติดต้นทุนสูงตั้งแต่รอบก่อนๆ ด้วยซ้ำ
ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับสู่ความซบเซาอีกครั้ง หลังจากตอบรับความคาดหมายมาตรการคิวอีไปเมื่อต้นสัปดาห์ แต่เมื่อขาดปัจจัยใหม่จึงหมดแรงกระตุ้นทำให้นักลงทุนไม่กล้าลุยซื้อ ดัชนีจึงเคลื่อนไหวในลักษณะประคับประคองตัว ซึ่งอาจดำเนินไปจนสิ้นสุดไตรมาสที่ 3
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,439.13 จุด ลดลง 4.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,790 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,034 ล้านบาท
อาการตลาดแสดงให้เห็นชัดเจนว่าขาดแรงขับเคลื่อน โดยแม้มูลค่าการซื้อขายจะหนาตา แต่นักลงทุนก็ระมัดระวังตัวไม่กล้าผลีผลามไล่หุ้น โดยเก็งกำไรในช่วงราคาที่แคบมาก และหันไปคอยประเมินแนวโน้มมากกว่า ซึ่งในช่วงสั้นไม่อาจประเมินอะไรได้มากนัก
ส่วนการที่ต่างชาติกลับมาขายไม่มีนัยสำคัญอะไร โดยก่อนหน้าซื้อไปเยอะ และบางกลุ่มอาจทยอยลดน้ำหนักจึงไม่ต้องตื่นกลัวจนเกินเหตุ เพียงแต่ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างจับติดเท่านั้น ถ้าหากขายจริง ขายหนัก และต่อเนื่องค่อยชิงเผ่นออกก่อน
แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้คงไม่แตกต่างจากวันนี้เท่าไหร่นัก โดยขึ้นลงในกรอบแคบๆ ดัชนีย่ำฐานไปอีกสักพัก และไม่มีหุ้นกลุ่มไหนจูงใจให้ต้องรีบเก็บ
เพราะเมื่อภาพตลาดรวมนิ่งก็คงไม่มีกลุ่มไหนสวนทางขึ้นไป ยกเว้นหุ้นตัวเล็กที่มีการจุดพลุเก็งกำไร แต่เป็นอันตรายสำหรับนักลงทุนที่จะตามแห่ เพราะชีพจรเก็งกำไรหุ้นตัวเล็กสั้นมากๆ สั้นจนนัลงทุนราย่อยหนีไม่ทัน ติดหุ้นตัวเล็กเป็นแถว ติดต้นทุนสูงตั้งแต่รอบก่อนๆ ด้วยซ้ำ
