“กิตติรัตน์” โต้ข่าว ครม. ถกลับแอบแก้ กม.ขยายเพดานขึ้นภาษีสุราเพื่ออุดรายได้รัฐบาล ยันไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นเพียงแค่การหารือเท่านั้น
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา มีมติลับแก้ไข พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 เพื่อให้มีการปรับขึ้นภาษีสุราทุกชนิด โดยออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อขยายเพดานภาษีสรรพสามิตขึ้นจากเดิมประมาณ 10-15% นั้น ตนขอยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการปรับขึ้นภาษีสุรา เป็นเพียงแค่หารือเท่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงสร้างภาษีในปัจจุบันเริ่มเต็มเพดานแล้ว และหากขึ้นราคาจริงจะต้องมีการแก้กฏหมาย โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องระยะยาว และยืนยันว่าไม่มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมและพัฒนาภารกิจกรมสรรพสามิต (กสพ.) วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคนพิการ หรือส่งเสริมการศึกษา และค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ อย่างแน่นอน
“การที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่ารัฐบาลเร่งปรับขึ้นอัตราภาษีดังกล่าวเพื่อสนับสนุนรายได้ของรัฐบาล ไม่เป็นความจริง เนื่องจากแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ในปีนี้ยังเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และกรมสรรพสามิตเองมีการจัดเก็บรายได้ในส่วนอื่นๆ ที่ยังขยายตัวได้ในระดับสูง แต่หากมองในทางกลับกัน การปรับขึ้นภาษีสุราถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ และเหมาะสม เพราะจะช่วยให้ผู้บริโภคลดการซื้อสุราลง”
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ครม. มีมติเห็นชอบการปรับแก้ไข พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 โดยออกพ.ร.ก. กำหนดแก้ไขในส่วนของการขยายเพดานภาษีสรรพสามิต ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ การปรับเปลี่ยนวิธีการคำนวณภาษีสรรพสามิตสุรา จากเดิมใช้การคำนวณ 2 แบบ ทั้งในเชิงมูลค่า และเชิงปริมาณตามดีกรีแอลกอฮอล์ โดยเลือกวิธีจัดเก็บสูงสุด รวมทั้งเปลี่ยนวิธีการคำนวณต้นทุนภาษีสรรพสามิตในเชิงมูลค่า พร้อมทั้งจะมีการจัดตั้งกองทุน กสพ. โดยมีรูปแบบ และแหล่งที่มาของกองทุนคิดจากภาษีสรรพสามิตสุรา 1.5-2% เป็นรูปแบบเดียวกับการจัดตั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)