แตกหักสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นยังจมกับพิษทางการเมือง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการทรุดตัวรุนแรงต่อเนื่อง แม้กระทั่งวันศุกร์ก็ยังถอยลงต่อ แต่ยังยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้ ซึ่งต้อรอลุ้นกันต่อว่าสัปดาห์หน้าจะต้านทานผลระทบจากการเมืองไหวหรือไม่ เพราะจะเป็นช่วงที่สถานการณ์การเมืองร้อนแรงสุดขีด
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,420.94 จุด ลดลง 16.57 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,950 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,642 ล้านบาท
นักลงทุนคงเฝ้ารอจับตาความเคลื่อไหวการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันอาทิตย์นี้ เพราะจะเป็นปัจจัยชี้นำตลาดในวันจันทร์ โดยหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงดัชนีคงปักหัวลง แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงดัชนีอาจกระเตื้องขึ้น แต่ไม่น่าจะไปไหนได้ไกล เพราะจุดแตกหักของสถานการณ์การเมืองอยู่ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะมีการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ
แนวโน้มตลาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นต้องรอผ่านวันที่ 7 สิงหาคมผ่านพ้นไปก่อน เพราะจะประเมินทิศทางระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนนี้ยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่รัฐบาลเสนอเข้าสู่สภาฯ และมีกระแสต่อต้านอยู่ ขณะที่การเมืองก็ยังมีความอึกครึม ข่าวลือต่างๆ มากมาย และจะปกคลุมตลาดหุ้นอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ตลาดไม่มีความคึกคักได้เต็มที่
สำหรับนักลงทุนคงได้แต่เฝ้ารอเพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไปเท่านั้น ทั้งเฝ้ารอประเมินสถานการณ์ระยะกลาง และทิศทางการลงทุนระยะสั้นวันต่อวัน ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะรีบร้อนช้อนซื้อหุ้น
ตลาดหุ้นยังจมกับพิษทางการเมือง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการทรุดตัวรุนแรงต่อเนื่อง แม้กระทั่งวันศุกร์ก็ยังถอยลงต่อ แต่ยังยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้ ซึ่งต้อรอลุ้นกันต่อว่าสัปดาห์หน้าจะต้านทานผลระทบจากการเมืองไหวหรือไม่ เพราะจะเป็นช่วงที่สถานการณ์การเมืองร้อนแรงสุดขีด
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,420.94 จุด ลดลง 16.57 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,950 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,642 ล้านบาท
นักลงทุนคงเฝ้ารอจับตาความเคลื่อไหวการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันอาทิตย์นี้ เพราะจะเป็นปัจจัยชี้นำตลาดในวันจันทร์ โดยหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงดัชนีคงปักหัวลง แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงดัชนีอาจกระเตื้องขึ้น แต่ไม่น่าจะไปไหนได้ไกล เพราะจุดแตกหักของสถานการณ์การเมืองอยู่ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะมีการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ
แนวโน้มตลาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นต้องรอผ่านวันที่ 7 สิงหาคมผ่านพ้นไปก่อน เพราะจะประเมินทิศทางระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนนี้ยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่รัฐบาลเสนอเข้าสู่สภาฯ และมีกระแสต่อต้านอยู่ ขณะที่การเมืองก็ยังมีความอึกครึม ข่าวลือต่างๆ มากมาย และจะปกคลุมตลาดหุ้นอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ตลาดไม่มีความคึกคักได้เต็มที่
สำหรับนักลงทุนคงได้แต่เฝ้ารอเพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไปเท่านั้น ทั้งเฝ้ารอประเมินสถานการณ์ระยะกลาง และทิศทางการลงทุนระยะสั้นวันต่อวัน ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะรีบร้อนช้อนซื้อหุ้น