ดัชนีภาคเช้า (1 ส.ค.) ปิดที่ระดับ 1,433.02 จุด เพิ่มขึ้น 9.88 จุด ทั้งนี้ ดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 จุด ในช่วงเปิดตลาด แต่ก็มีแรงเทขายทำกำไรลงทำให้เกิดการแกว่งตัวในแดนบวกตลอดภาคเช้า โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,438.04 จุด และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,425.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14,714.47 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่หนุนตลาดช่วงนี้คือ การที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 0-0.25% และยังคงมาตรการ QE3 ต่อไป เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณชะลอวงเงิน QE3 ขณะที่ตลาดหุ้นดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 15,499.54 จุด ลดลง 21.05 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังเกิดความกังวลในความไม่ชัดเจนของมาตรการ QE ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งแรก GDP ใน ไตรมาส 2 เติบโตกว่าคาดที่ระดับ 1.7% จากที่คาดไว้ 1.1% ทางด้านตัวเลขจ้างงานออกมาเพิ่มขึ้นกว่าคาดที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ประเด็นทางการเมืองยังคงกดดันดัชนีต่อไป โดยในวันที่ 4 ส.ค. จะมีการชุมนุมของกลุ่มพลังประชาชนเพื่อต่อต้านรัฐบาล
5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายมากที่สุด 1.PTTGC ปิดที่ 68.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท (+3.79%) มูลค่าการซื้อขาย 1,400 ล้านบาท 2.JAS ปิดที่ 8.20 บาท ลดลง 0.10 บาท (-1.20%) มูลค่าการซื้อขาย 786 ล้านบาท 3.INTUCH ปิดที่ 88.75 เพิ่มขึ้น 1.75 บาท (+2.01%) มูลค่าการซื้อขาย 772 ล้านบาท 4.CPALL ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.50 บาท (-1.43%) มูลค่าการซื้อขาย 592 ล้านบาท 5.KBANK ปิดที่ 184.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 524 ล้านบาท