“ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าฯ” ยกเครื่องระบบซื้อขายสัญญาล่วงหน้าใหม่ ลงนามจ้าง “Patsystems” ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบซื้อขาย และ AFET เป็นผู้จัดหา และลงทุนทั้งระบบ โบรกเกอร์ไม่ต้องลงทุนติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบอื่น เพิ่มความสะดวกให้นักลงทุน ขณะนี้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์แล้ว คาดเปิดให้บริการภายในสิ้นปีนี้
นายศักดิ์ดา ทองปลาด ผู้ทำการแทนผู้จัดการ เผยว่า ตลาดสินค้าเกษตรล่วงเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เตรียมยกเครื่องระบบซื้อขายสัญญาล่วงหน้าใหม่ โดยได้ลงนามตกลงว่าจ้างบริษัท Patsystems ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบซื้อขายสัญชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแก่ตลาดล่วงหน้า และสถาบันการเงินชั้นนำในหลายประเทศ ด้วยระบบใหม่นี้ AFET เป็นผู้จัดหาและลงทุนทั้งระบบ โดยบริษัทสมาชิกของ AFET (โบรกเกอร์) ไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ และยังพร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ซึ่งนักลงทุนจะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ระบบใหม่ดังกล่าวสามารถรองรับธุรกรรมได้มากกว่า 2 ล้านรายการ หรือเกือบ 3 เท่าของระบบเดิม และมีความเร็วในการส่งคำสั่งมากขึ้นจากเดิม 8 เท่า โดยขณะนี้ได้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับแล้ว และคาดว่าระบบใหม่นี้จะให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้
“ขณะนี้ AFET ได้เตรียมทำการติดตั้ง server เพื่อรองรับการขยายตัวของระบบการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ AFET เป็นตลาดที่ลงทุนระบบการซื้อขาย และให้บริการหน้าจอซื้อขายแก่สมาชิกนายหน้าของ AFET มาตั้งแต่เริ่มแรก สมาชิกของ AFET จึงไม่ต้องมีภาระในการลงทุนด้านระบบซื้อขาย ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้ามาเป็นสมาชิกให้บริการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรสามารถเข้ามาเป็นสมาชิก โดยมีต้นทุนการเริ่มธุรกิจที่ต่ำ ลดความเสี่ยงจากการลงทุน ขณะเดียวกัน ระบบที่กำลังพัฒนานี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับระบบซื้อขายของนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์ ทั้งใน และต่างประเทศที่มีระบบของตนเองได้ ดังนั้น การยกเครื่องระบบซื้อขายของ AFET ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าทั้งรายใหม่ๆ และรายเดิมในตลาดอื่นๆ ที่มีความสนใจที่จะขยายฐานการเป็นนายหน้าให้ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท เพื่อตอบสนองการลงทุนของลูกค้า ให้เข้ามาเป็นสมาชิกของ AFET ได้สะดวกยิ่งขึ้น”
สำหรับ AFET ยังคงเดินหน้าพัฒนาปัจจัยเอื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าใน AFET เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้า และอำนวยความสะดวกแก่บริษัทโบรกเกอร์สมาชิกนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรในภาคส่วนอื่นๆ ทั้งผู้ประกอบการ กลุ่มลูกค้า ให้เข้าถึงการลงทุนใน AFET ได้ง่ายขึ้น
นายศักดิ์ดา ทองปลาด ผู้ทำการแทนผู้จัดการ เผยว่า ตลาดสินค้าเกษตรล่วงเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เตรียมยกเครื่องระบบซื้อขายสัญญาล่วงหน้าใหม่ โดยได้ลงนามตกลงว่าจ้างบริษัท Patsystems ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบซื้อขายสัญชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแก่ตลาดล่วงหน้า และสถาบันการเงินชั้นนำในหลายประเทศ ด้วยระบบใหม่นี้ AFET เป็นผู้จัดหาและลงทุนทั้งระบบ โดยบริษัทสมาชิกของ AFET (โบรกเกอร์) ไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ และยังพร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ซึ่งนักลงทุนจะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ระบบใหม่ดังกล่าวสามารถรองรับธุรกรรมได้มากกว่า 2 ล้านรายการ หรือเกือบ 3 เท่าของระบบเดิม และมีความเร็วในการส่งคำสั่งมากขึ้นจากเดิม 8 เท่า โดยขณะนี้ได้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับแล้ว และคาดว่าระบบใหม่นี้จะให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้
“ขณะนี้ AFET ได้เตรียมทำการติดตั้ง server เพื่อรองรับการขยายตัวของระบบการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ AFET เป็นตลาดที่ลงทุนระบบการซื้อขาย และให้บริการหน้าจอซื้อขายแก่สมาชิกนายหน้าของ AFET มาตั้งแต่เริ่มแรก สมาชิกของ AFET จึงไม่ต้องมีภาระในการลงทุนด้านระบบซื้อขาย ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้ามาเป็นสมาชิกให้บริการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรสามารถเข้ามาเป็นสมาชิก โดยมีต้นทุนการเริ่มธุรกิจที่ต่ำ ลดความเสี่ยงจากการลงทุน ขณะเดียวกัน ระบบที่กำลังพัฒนานี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับระบบซื้อขายของนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์ ทั้งใน และต่างประเทศที่มีระบบของตนเองได้ ดังนั้น การยกเครื่องระบบซื้อขายของ AFET ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าทั้งรายใหม่ๆ และรายเดิมในตลาดอื่นๆ ที่มีความสนใจที่จะขยายฐานการเป็นนายหน้าให้ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท เพื่อตอบสนองการลงทุนของลูกค้า ให้เข้ามาเป็นสมาชิกของ AFET ได้สะดวกยิ่งขึ้น”
สำหรับ AFET ยังคงเดินหน้าพัฒนาปัจจัยเอื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าใน AFET เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้า และอำนวยความสะดวกแก่บริษัทโบรกเกอร์สมาชิกนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรในภาคส่วนอื่นๆ ทั้งผู้ประกอบการ กลุ่มลูกค้า ให้เข้าถึงการลงทุนใน AFET ได้ง่ายขึ้น