“ดีบีเอสฯ” มองการเมืองต้นเดือน ส.ค. ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก หากพลังต้านลุกฮือเต็มเมือง “รบ.” อาจปรับแผน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่วนทิศทางสัปดาห์หน้าหุ้นไทยจะผันผวนไปตามข่าวที่เข้ามาในแต่ละวัน “ธนชาต” ระบุหุ้นดีดขึ้น 20 จุดท้ายตลาดฯ เมื่อวันศุกร์ เป็นการเด้งทางเทคนิค ยันสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 26 ก.ค. ปรับขึ้นกว่า 20 จุด ดีกว่าตลาดในภูมิภาค หลังจากเมื่อวันพฤหัสที่ 25 ก.ค. ปรับลงถึง 44 จุด ซึ่งแย่กว่าตลาดภูมิภาต เพราะกังวลประเด็นการเมือง เพราะถ้าดูจากการซื้อขายนักลงทุนรายกลุ่ม พอร์ตโบรกเกอร์มีการขายสุทธิอย่างหนัก
“ช่วงบ่าย 26 ก.ค. ดัชนีกระเตื้องขึ้น เพราะในส่วนการเมืองบางกลุ่มออกมาให้ความเห็นว่าในแง่ของรัฐบาลอาจจะดูสถานการณ์ถ้าจะมีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาก ก็อาจจะมีการปรับแผน แต่ก็เป็นความเห็นของบางกลุ่ม ทำให้ความวิตกกังวลผ่อนคลายลงบ้าง ตลาดกลับมาบวกดีขึ้นชดเชยกับที่ลงแรงมากเมื่อวาน ซึ่งชดเชยได้บางส่วน”
สำหรับสัดส่วนการลงทุนเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ต่างชาติขายสุทธิ 103 ล้าน รายย่อยซื้อสุทธิ 1.2 พันล้าน สถาบันซื้อสุทธิ 733 ล้าน บัญชีโบรกเกอร์ขายสุทธิ 1.9 พันล้าน
ขณะที่สัดส่วนการลงทุนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ต่างชาติซื้อสุทธิ 367.19 ล้าน รายย่อยซื้อสุทธิ 1.4 พันล้าน สถาบันขายสุทธิ 56.25 ล้าน บัญชีโบรกเกอร์ขายสุทธิ 1.7 พันล้าน
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้า นักลงทุนยังต้องติดตามประเด็นการเมืองซึ่งจะมีน้ำหนักมากขึ้นเพราะเดือน ส.ค.จะเปิดประชุมสภาฯ และสัปดาห์หน้ามีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ติดตามผลการประชุมด้วย ซึ่งตลาดช่วงนี้จะผันผวนไปตามข่าวที่เข้ามาในแต่ละวันมากกว่า ทั้งนี้ แนะซื้อหรือถือหุ้นเมื่อดัชนียืนเหนือ 1,470 จุด ถ้าต่ำกว่าลดพอร์ตลงทุนโดยเฉพาะพอร์ตที่มีเงินสดเหลืออยู่น้อย
ด้านนายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์ลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่เด้งแรงในช่วงท้ายตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมองว่าเป็นการเด้งในทางเทคนิค หลังจากดัชนีลงไปสู่แนวรับที่ 1,440 จุด และมีแรงซื้อกลับเข้ามา
ทั้งนี้ ถ้าหากดัชนีสามารถขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,480 จุด ก็น่าจะวางใจได้ว่าดัชนีจะมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นไปต่อ แต่การขึ้นในขณะนี้ยังไม่สามารถไว้วางใจได้เพราะยังต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
“ยอมรับว่าตลาดขึ้น และลงแรงและเร็วมาก ซึ่งก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าปัจจัยลบที่ตลาดกังวลจะเป็นเพราะการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ หรือการขายทำกำไรเมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมา”
