คุ้มดีคุ้มร้าย
บรรยากาศการลงทุนก็ยังไม่ผ่านช่วงความพลิกผัน เพราะหลังจากวันก่อนพุ่งขึ้นแรง แต่วันนี้กลับทรุดตัวลงมาใหม่ โดยไม่มีปัจจ้ยลบกระทบที่ชัดเจน นอกจากสถานการณ์การเปิดที่ร้อนแรงขึ้นช่วงใกล้เปิดสภาฯ แต่ก็อาจไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้ดัชนีทรุดลง เพราะประเด็นสำคัญอาจเกิดจากแรงขายทำกำไรมากกว่า
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,501.36 จุด ลดลง 11.95 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 53,364 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 407 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในระยะสั้นอ้างอิงตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นย่านเอเชีย เนื่องจากไม่มีปัจจัยอื่นชี้นำ ส่วนปัจจัยภายในไม่มีข่าวในเชิงบวก แต่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวเชิงลบ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง หรือสถานการณ์การเมืองที่คุกรุ่นเมื่อรัฐบาลดันทุรัง กม.นิรโทษกรรม ล้างผิดให้แก่พวกพ้อง จนประชาชนกลุ่มต่างๆ เตรียมลุกฮือต่อต้านจนอาจนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมือง และกลายเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด
แนวโน้มตลาดระยะสั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมาย ไม่อาจประเมินทิศทางแน่ชัดได้ ทำให้ดัชนีอ่อนไหวพร้อมแกว่งขึ้นแกว่งลงตามปัจจัยแวดล้อมแต่ละวัน ขณะที่นักลงทุนรายย่อยจ้องรอจังหวะขายทำกำไรมากกว่า และคงไม่ยอมกลับมาไล่ซื้อเพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ โดยความไม่แน่นอนของตลาดอาจดำเนินต่อไปตลอดเดือนสิงหาคม ส่วนจะผันผวนรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง
ดัชนีที่พุ่งทะลุ 1,500 จุดได้มาหยกๆ มีโอกาสถอยหลังลงกลับไปใหม่ได้ตลอดเวลา ใครที่ใช้กลยุทธ์ทยอยขายเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นน่าจะยึดกลยุทธ์เดิมต่อไป
บรรยากาศการลงทุนก็ยังไม่ผ่านช่วงความพลิกผัน เพราะหลังจากวันก่อนพุ่งขึ้นแรง แต่วันนี้กลับทรุดตัวลงมาใหม่ โดยไม่มีปัจจ้ยลบกระทบที่ชัดเจน นอกจากสถานการณ์การเปิดที่ร้อนแรงขึ้นช่วงใกล้เปิดสภาฯ แต่ก็อาจไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้ดัชนีทรุดลง เพราะประเด็นสำคัญอาจเกิดจากแรงขายทำกำไรมากกว่า
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,501.36 จุด ลดลง 11.95 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 53,364 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 407 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในระยะสั้นอ้างอิงตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นย่านเอเชีย เนื่องจากไม่มีปัจจัยอื่นชี้นำ ส่วนปัจจัยภายในไม่มีข่าวในเชิงบวก แต่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวเชิงลบ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง หรือสถานการณ์การเมืองที่คุกรุ่นเมื่อรัฐบาลดันทุรัง กม.นิรโทษกรรม ล้างผิดให้แก่พวกพ้อง จนประชาชนกลุ่มต่างๆ เตรียมลุกฮือต่อต้านจนอาจนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมือง และกลายเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด
แนวโน้มตลาดระยะสั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมาย ไม่อาจประเมินทิศทางแน่ชัดได้ ทำให้ดัชนีอ่อนไหวพร้อมแกว่งขึ้นแกว่งลงตามปัจจัยแวดล้อมแต่ละวัน ขณะที่นักลงทุนรายย่อยจ้องรอจังหวะขายทำกำไรมากกว่า และคงไม่ยอมกลับมาไล่ซื้อเพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ โดยความไม่แน่นอนของตลาดอาจดำเนินต่อไปตลอดเดือนสิงหาคม ส่วนจะผันผวนรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง
ดัชนีที่พุ่งทะลุ 1,500 จุดได้มาหยกๆ มีโอกาสถอยหลังลงกลับไปใหม่ได้ตลอดเวลา ใครที่ใช้กลยุทธ์ทยอยขายเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นน่าจะยึดกลยุทธ์เดิมต่อไป