สมาคมนักวิเคราะห์เร่งเก็บข้อมูล ศก.สำคัญ พร้อมสำรวจความเห็นคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทย คาดอาจต้องปรับเป้าลดลง หลังสัญญาณ ศก.ชะลอตัว พร้อมเจาะมุมมอง “คิวอี” ประเมินผลกระทบเม็ดเงินต่างชาติ คาดรู้ผล 10 ก.ค.นี้ ยอมรับ “ส่งออก-บริโภค” ไม่แข็งแรง ส่วนการเมืองยังเหนียว รัฐบาลฝ่าจุดอ่อนได้ ไม่ถึงขั้นต้องยุบหนี
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า สมาคมฯ จะสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ในช่วงต้นเดือน ก.ค. ถึงภาวะเศรษฐกิจ และดัชนีตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีแนวโน้มทั้งดัชนีเป้าหมายสิ้นปี และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะต้องปรับลดลง จากการสำรวจครั้งก่อนหน้ามองดัชนีสิ้นปีที่ 1,625 จุด และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 4.9%
สำหรับการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งนี้ คำถามจะเน้นหนักไปที่คาดการณ์มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ (คิวอี) โดยในมุมมองของนักวิเคราะห์เห็นว่า สหรัฐฯ จะมีการชะลอเมื่อไหร่ ประเมินการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย
รวมทั้งจะมีการสอบถามถึงคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งค่าเงิน อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มปรับลดลงตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ คาดว่าจะสามารถเปิดเผยผลสำรวจได้ในช่วงวันที่ 10 ก.ค.นี้
นายสมบัติ ระบุว่า สถานการณ์ในประเทศ และต่างประเทศในปัจจุบันปรับเปลี่ยนไปจากเดิมมาก โดยเฉพาะภาพต่างประเทศ จากนโยบายการปรับลดการอัดฉีดสภาพคล่อง หรือมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ ทำให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลกลับ ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศก็อ่อนแอลง เห็นได้จากการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของหน่วยงานต่างๆ ที่ออกมาช่วงนี้
สำหรับตัวแปรหลักที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะอยู่ที่ปัจจัยภายในเป็นหลัก จากเดิมตัวแปรหลักคือ คิวอี โดยแนวโน้มกลุ่มส่งออก และกลุ่มการบริโภคในประเทศไม่แข็งแรงทั้งคู่ จากเดิมทีหากกลุ่มใดอ่อนกำลังลง จะมีอีกกลุ่มเข้ามาช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ จึงต้องติดตามดูสถานการณ์ทั้ง 2 กลุ่ม
ทั้งนี้ ประเมินว่าในส่วนสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะเชื่อว่าการเมืองไทยยังเหนียวแน่น พร้อมมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถประคับประคองไปได้ แม้ประเด็นเรื่องนโยบายบางอย่างจะถูกท้วงติง หรือเป็นจุดอ่อน แต่คงไม่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ เพราะปมคือปัญหาของภาพรวมเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยก็เริ่มปรับเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนตลาดเงิน และพันธบัตรจากการคาดการณ์การหยุด หรือชะลอมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ